สหพันธ์มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งยุโรป
ก่อตั้ง | ค.ศ. 2002 |
---|---|
ประเภท | องค์การเพื่อการศึกษาและวิจัย |
สํานักงานใหญ่ | ลูเวน, เบลเยี่ยม |
ภูมิภาคที่รับผิดชอบ | ยุโรป |
เลขาธิการทั่วไป | Dr.Kurt Deketelaere |
เว็บไซต์ | www |
สหพันธ์มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งยุโรป (อังกฤษ: League of European Research Universities; ตัวย่อ: LERU) เป็นสมาคมของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านงานวิจัยที่โดดเด่นที่สุดในยุโรป[1]
ประวัติ
[แก้]สมาพันธ์มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งยุโรป เป็นความร่วมมือกันของมหาวิทยาลัยต่างๆในทวีปยุโรป 21 แห่ง ที่มีชื่อเสียงด้านงานวิจัยที่โดดเด่น เพื่อที่จะแลกเปลี่ยนความรู้ และแข่งขันด้านการวิจัยระดับนานาชาติ สมาพันธ์มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งยุโรปก่อตั้งในปี ค.ศ. 2002 โดย มหาวิทยาลัยที่มีผลงานวิจัยยอดเยี่ยมในยุโรป 12 มหาวิทยาลัย ปี ค.ศ. 2010 มีสมาชิกเข้าร่วมทั้งหมด 21 มหาวิทยาลัยทั่วยุโรป
สมาพันธ์มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งยุโรปสนับสนุนด้านการศึกษาและวิจัยโดยคำนึงถึงขอบเขตของความเข้าใจในมนุษย์ การสรรค์สร้างความรู้ใหม่ผ่านการวิจัยพื้นฐาน ซึ่งแหล่งความรู้สุดยอดคือนวัตกรรมในสังคม ส่งเสริมงานวิจัยของมหาวิทยาลัยสมาชิกในวงสังคมอย่างกว้างขวาง
เป้าหมายของสมาพันธ์คือการสนับสนุนคุณค่าของงานวิจัย ให้นำไปเป็นนโยบายใช้การพัฒนา และประสบผลดีที่สุด โดยผ่านการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกันในหมู่มหาวิทยาลัยสมาชิก
สมาพันธ์มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งยุโรปตีพิมพ์งานวิจัยและรายงานที่หลากหลาย และสม่ำเสมอ ก่อให้เกิดการถกเถียงในระดับสูง มีการวิเคราะห์ในเชิงลึก เกิดเป็นผลงานที่ตกผลึกและนำไปเป็นแนวทาง หรือนโยบายปฏิบัติสำหรับมหาวิทยาลัย ผู้วิจัย และผู้สนับสนุนเงินทุนวิจัย
สำนักงานใหญ่ของสมาพันธ์มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งยุโรปตั้งอยู่ที่เมืองลูเวน (Leuven) ประเทศเบลเยี่ยม โดยมี ศ.ดร. Kurt Deketelaere เป็นเลขาธิการคนปัจจุบัน [2]
สมาชิก
[แก้]สหพันธ์มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งยุโรปมีสมาชิกทั้งหมด 21 มหาวิทยาลัยทั่วยุโรป[3]
- มหาวิทยาลัยคาทอลิก ลูเวน (KU Leuven)
- มหาวิทยาลัยเฮลซิงกิ (University of Helsinki)
- มหาวิทยาลัยปิแอร์ และมารี คูรี่ (Pierre-and-Marie-Curie University)
- มหาวิทยาลัยปารีสใต้ (University of Paris-Sud)
- มหาวิทยาลัยสตรัสเบิร์ก (University of Strasbourg)
- มหาวิทยาลัยไฟรบวร์ค (University of Freiburg)
- มหาวิทยาลัยไฮเดิลแบร์ก (Heidelberg University)
- มหาวิทยาลัยมิวนิก (University of Munich)
- มหาวิทยาลัยมิลาน (University of Milan)
- มหาวิทยาลัยอัมสเตอร์ดัม (University of Amsterdam)
- มหาวิทยาลัยเลเดน (Leiden University)
- มหาวิทยาลัยอูเทรช (Utrecht University)
- มหาวิทยาลัยบาร์เซโลนา (University of Barcelona)
- มหาวิทยาลัยลุนด์ (Lund University)
- มหาวิทยาลัยเจนีวา (University of Geneva)
- มหาวิทยาลัยซูริค (University of Zurich)
- อิมพิเรียลคอลเลจลอนดอน (Imperial College London)
- ยูนิเวอร์ซิตี้ คอลเลจจ์ ลอนดอน (University College London)
- มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (University of Cambridge)
- มหาวิทยาลัยเอดินบะระ (University of Edinburgh)
- มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด (University of Oxford)
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-06-04. สืบค้นเมื่อ 2013-05-31.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-06-04. สืบค้นเมื่อ 2013-05-31.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-06-04. สืบค้นเมื่อ 2013-05-31.