อาวาโมริ
อาวาโมริ (ญี่ปุ่น: 泡盛; โรมาจิ: awamori) หรืออามูอิ (โอกินาวะ: アームイ āmui) เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากจังหวัดโอกินาวะ ประเทศญี่ปุ่น อาวาโมริทำจากข้าวเมล็ดยาว[1]นำไปหมักแล้วตามด้วยกลั่น
ประวัติ
[แก้]ประวัติของอาวาโมริตั้งต้นมาจากการค้าขายระหว่างโอกินาวะหรืออาณาจักรรีวกีวในขณะนั้นกับอาณาจักรอื่น โดยมีต้นกำเนิดมาจากเหล้าขาวของไทย[2] วิธีการกลั่นอาวาโมรินั้นถ่ายทอดมาจากอาณาจักรอยุธยาเมื่อสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15 ซึ่งโอกินาวะหรืออาณาจักรรีวกีวในขณะนั้นเป็นตัวกลางหลักในการค้าระหว่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จีน และญี่ปุ่น อาวาโมริจะใช้ข้าวจากไทยเป็นวัตถุดิบทั้งหมด ชาวโอกินาวะได้พัฒนากระบวนการกลั่นจากเทคนิคที่ได้เรียนรู้จากประเทศเพื่อนบ้านเพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะอากาศท้องถิ่นและให้สามารถนำราโคจิซึ่งเป็นราท้องถิ่นมาใช้หมักได้[2] อาณาจักรรีวกีวได้ส่งอาวาโมริเป็นเครื่องบรรณาการให้กับจีนและญี่ปุ่นระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 15 ถึง 19
หลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดซึ่งปรากฏชื่ออาวาโมริ (泡盛) ได้แก่บันทึกของขวัญจากพระเจ้าโช เทแห่งอาณาจักรรีวกีวพระราชทานแก่โทกูงาวะ อิเอ็ตสึนะ โชกุนคนที่สี่ของรัฐบาลโชกุนโทกูงาวะเมื่อ ค.ศ. 1671 ซึ่งกษัตริย์แห่งอาณาจักรรีวกีวเคยพระราชทานอาวาโมริเป็นของขวัญมาก่อนแล้ว แต่ในเอกสารฉบับก่อนหน้าจะบันทึกชื่อไว้ว่าเป็นโชจู (焼酒 หรือ 焼酎)[3]
ใน ค.ศ. 2017[4] ผู้ผลิตอาวาโมริรายใหญ่สามรายในจังหวัดโอกินาวะได้ร่วมมือกันเพื่อขยายตลาดเพื่อส่งออกอาวาโมริไปยังสหรัฐและยุโรปเนื่องจากยอดขายในประเทศลดลง[5] ผลิตภัณฑ์ใช้ชื่อตราสินค้าว่า "Ryukyu 1429" และเริ่มวางจำหน่ายในสหราชอาณาจักรเมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2019[6]
การผลิต
[แก้]แม้ว่าอาวาโมริจะเป็นสุรากลั่นเหมือนกับโชจู แต่อาวาโมริกับโชจูก็มีความแตกต่างที่สำคัญหลายประการ ประการแรก อาวาโมริมาจากการหมักครั้งเดียวในขณะที่โชจูมาจากการหมักสองครั้ง นอกจากนี้ อาวาโมริจะใช้ข้าวแบบไทยซึ่งเป็นข้าวเมล็ดยาว แตกต่างจากข้าวญี่ปุ่นซึ่งเป็นเมล็ดสั้นที่ใช้ผลิตโชจู[7] ประการสุดท้าย อาวาโมริจะใช้ราโคจิดำซึ่งเป็นราโคจิท้องถิ่นของโอกินาวะ ในขณะที่โชจูจะใช้ราโคจิขาว ดำ และเหลือง[8]
คูซุ
[แก้]อาวาโมริที่บ่มเป็นเวลาอย่างน้อยสามปีจะเรียกว่า "คูซุ" (ญี่ปุ่น: 古酒; โรมาจิ: kusu แปลว่า สุราเก่า) ซึ่งมาจากคำอ่านในภาษาโอกินาวะและจะใช้เฉพาะกับอาวาโมริ ในขณะที่ในส่วนอื่นของญี่ปุ่นจะอ่านว่า "โคชุ" และจะใช้กับสาเกเก่า[9] คูซุที่บ่มเก็บไว้กว่า 200 ถึง 300 ปีส่วนใหญ่สูญหายไประหว่างยุทธการที่โอกินาวะในสงครามโลกครั้งที่สอง[10] ในปัจจุบันคูซุที่เชื่อกันว่าเก็บไว้นานที่สุดอยู่ที่โรงกลั่นสุราชิกินะ เขตชูริ นครนาฮะ ซึ่งมีอายุประมาณ 100 ถึง 150 ปี[11] และมีความพยายามที่จะบ่มคูซุอายุ 200 และ 300 ปีใหม่อีกครั้ง[12]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Pellegrini, Christopher (July 22, 2014). The Shochu Handbook – An Introduction to Japan's Indigenous Distilled Drink. Telemachus Press. p. 21. ISBN 978-1940745282.
- ↑ 2.0 2.1 Nakasone, Ronald Y. (2002). Okinawan diaspora. University of Hawaii Press.
- ↑ "泡盛とは | 泡盛基礎知識 | 泡盛の名前の由来". 琉球泡盛 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2022-06-27.
- ↑ "3 Okinawan liquor makers hold strategy meeting with foreign marketing specialists to develop the "Awamori Brand"". Ryukyu Shimpo - Okinawa, Japanese newspaper, local news (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2019-08-26.
- ↑ "Public and private sectors push to revive Okinawa's struggling awamori industry". The Japan Times Online (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2018-10-12. ISSN 0447-5763. สืบค้นเมื่อ 2019-08-26.
- ↑ "Japanese Awamori Spirits Draw Attention at London Show". nippon.com (ภาษาอังกฤษ). 2019-07-02. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-11-16. สืบค้นเมื่อ 2019-08-26.
- ↑ Chris., Bunting; クリス・バンティング. (2011). Drinking Japan : a guide to Japan's best drinks and drinking establishments. Tokyo: Tuttle Pub. ISBN 9784805310540. OCLC 654312874.
- ↑ Taiki Futagami. "The white koji fungus Aspergillus luchuensis mut. kawachii. Bioscience, Biotechnology, and Biochemistry, Volume 86, Issue 5". Japan Society for Bioscience, Biotechnology, and Agrochemistry. pp. 574–584. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 April 2023. สืบค้นเมื่อ 9 April 2023.
- ↑ John Gauntner (2004). "Shochu & Awamori". Sake World. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 November 2010. สืบค้นเมื่อ 2016-11-06.
- ↑ "沖縄で現存する最古150年物の泡盛古酒を訪ねた". 琉球新報 Style (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2022-06-27.
- ↑ "沖縄最古の泡盛". 沖縄泡盛酒造所 有限会社 識名酒造 - 古風味豊かな琉球泡盛「時雨」・「歓」 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2022-06-27.
- ↑ "古酒とは | 古酒は沖縄の宝 | 現存する最古の古酒は?". 琉球泡盛 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2022-06-27.[ลิงก์เสีย]