ข้ามไปเนื้อหา

สโมสรฟุตบอลเบิร์นลีย์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เบิร์นลีย์
ชื่อเต็มสโมสรฟุตบอลเบิร์นลีย์
ฉายาThe Clarets(เดอะคลาเรตส์)
เหล้าองุ่น
ก่อตั้ง18 พฤษภาคม 1882; 142 ปีก่อน (1882-05-18)
สนามเทิร์ฟมัวร์
ความจุ21,944
เจ้าของเอแอลเค แคปปิตอล [แอลแอลซี]
ประธานอลัน เพซ
ผู้จัดการสก็อต พาร์กเกอร์
ลีกอีเอฟแอลแชมเปียนชิป
2023–24พรีเมียร์ลีก อันดับที่ 19 จาก 20 (ตกชั้น)
เว็บไซต์เว็บไซต์สโมสร
สีชุดทีมเยือน

สโมสรฟุตบอลเบิร์นลีย์ (อังกฤษ: Burnley Football Club) เป็นสโมสรฟุตบอลอังกฤษที่ตั้งอยู่ในเมืองเบิร์นลีย์ แลงคาสเชอร์ แข่งขันในอีเอฟแอลแชมเปียนชิป ซึ่งเป็นลีกลำดับสองของฟุตบอลอังกฤษ สโมสรก่อตั้งเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ค.ศ. 1882 โดยเป็นหนึ่งในสโมสรแรก ๆ ที่เข้าสู่ระบบอาชีพ (ใน ค.ศ. 1883) และมีการกดดันให้สมาคมฟุตบอลต้องจ่ายค่าจ้างให้แก่นักเตะ สโมสรเข้าร่วมแข่งขันเอฟเอคัพครั้งแรกในฤดูกาล 1885–86 และเป็นหนึ่งใน 12 สโมสรผู้ร่วมก่อตั้งฟุตบอลลีกในฤดูกาล 1888–89 ระหว่างช่วงคริสต์ทศวรรษ 1950 ถึง 1970 ภายใต้การบริหารของประธาน บ็อบ ลอร์ด สโมสรมีความโดดเด่นในด้านการพัฒนาระบบเยาวชนและการเฟ้นหานักเตะฝีเท้าดี อีกทั้งยังเป็นสโมสรแรก ๆ ที่มีการจัดตั้งสนามฝึกซ้อมฟุตบอล

เบิร์นลีย์ชนะเลิศลีกสูงสุดของอังกฤษสองสมัยในฤดูกาล 1920–21 และ 1959–60 ชนะเลิศเอฟเอคัพสมัยเดียวในฤดูกาล 1913–14 ชนะเลิศเอฟเอแชริตีชีลด์ใน ค.ศ. 1960 และ 1973 จบอันดับรองชนะเลิศในเฟิสต์ดิวิชันสองครั้งในฤดูกาล 1919–20 และ 1961–62 จบรองชนะเลิศเอฟเอคัพในฤดูกาล 1946–47 และ 1961–62 เบิร์นลีย์เป็นหนึ่งในห้าสโมสรที่ชนะเลิศลีกฟุตบอลอาชีพของอังกฤษครบทั้งสี่ระดับ ร่วมกับวุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์, เพรสตันนอร์ทเอนด์, เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด และพอร์ตสมัท ในฤดูกาล 1920–21 เบิร์นลีย์สร้างสถิติเป็นสโมสรที่ไม่แพ้ใครติดต่อกันยาวนานที่สุดของอังกฤษ ณ ขณะนั้น โดยไม่แพ้ใครยาวนานถึง 30 นัด[a] และในฤดูกาล 1959–60 ซึ่งสโมสรชนะเลิศลีกสูงสุด เมืองเบิร์นลีย์มีประชากรเพียงราว 80,000 คน ทำให้เบิร์นลีย์เป็นหนึ่งในสโมสรที่เมืองที่ตั้งมีประชากรน้อยที่สุดที่ชนะเลิศลีกสูงสุดของประเทศ

สโมสรลงเล่นเกมเหย้าที่สนามเทิร์ฟมัวร์ตั้งแต่ ค.ศ. 1883 หลังจากที่พวกเขาย้ายมาจากสนามคัลเดอร์เวล เบิร์นลีย์ใช้สีแดงไวน์ (คลาเร็ตส์) และสีฟ้าเป็นสีชุดแข่งประจำสโมสรมาตั้งแต่ฤดูกาล 1910–11 ซึ่งสีเหล่านี้ได้รับอิทธิพลจากชุดแข่งของแอสตันวิลลาซึ่งเป็นแชมป์ลีกสูงสุด ณ ขณะนั้น สโมสรมีฉายาว่า "เดอะคลาเร็ตส์" ซึ่งมีที่มาจากสีชุดเหย้าของสโมสร ตราประจำสโมสรในปัจจุบันปรับแต่งจากตราประจำเมือง สโมสรมีคู่ปรับสำคัญได้แก่แบล็กเบิร์นโรเวอส์ ซึ่งการพบกันของทั้งคู่ถูกเรียกว่าอีสต์แลงคาสเชอร์ดาร์บี

ประวัติ

[แก้]

สโมสรเบิร์นลีย์ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 18 พฤษภาคม ค.ศ. 1882 (พ.ศ. 2425) โดยก่อนที่จะเป็นสโมสรฟุตบอลนั้นเบิร์นลีย์เคยเป็นทีมรักบี้มาก่อน ต่อมาเมื่อได้มีการก่อตั้งลีกดิวิชัน 1 (เดิม) ขึ้นมาในปี ค.ศ. 1888 (พ.ศ. 2431) เบิร์นลีย์ก็เป็นหนึ่งในสโมสรที่ร่วมก่อตั้งลีกขึ้นมา

ในปี ค.ศ. 1976 เบิร์นลีย์ตกจากลีกสูงสุดไปอยู่ดิวิชัน 2 (เดิม) และไม่ได้กลับขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดอีกเป็นเวลานานถึง 33 ปีจนในฤดูกาล 2009–10 เบิร์นลีย์ก็ได้กลับสู่ลีกสูงสุดอีกครั้งได้สำเร็จ โดยการเพลย์ออฟเอาชนะทีมดาบคู่ เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด ไป 1-0 และสร้างความฮือฮาด้วยการชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ได้ 1-0 จาก ร็อบบี เบลก

ในฤดูกาล 2014–15 เบิร์นลีย์ได้เลื่อนชั้นมาสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง แต่ทว่าก็ต้องตกลงไปเล่นในเดอะแชมเปียนชิปเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล หลังการลงแข่งในนัดที่ 36 แต่มีเพียง 29 คะแนน ซึ่งไม่เพียงพอที่จะอยู่ต่อ[2]

เกียรติประวัติ

[แก้]

ผู้เล่น

[แก้]
ณ วันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ.2024[3]

หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ

เลข ตำแหน่ง สัญชาติ ผู้เล่น
1 GK อังกฤษ เจมส์ ทราฟฟอร์ด
2 DF สาธารณรัฐไอร์แลนด์ ดารา โอเช
3 DF อังกฤษ ชาร์ลี เทย์เลอร์
5 DF เยอรมนี จอร์แดน เบเยอร์
6 DF อังกฤษ ซี เจ อีแกน-ไรลีย์
8 MF อังกฤษ จอช บราวน์ฮิลล์ (รองกัปตัน)
9 FW อังกฤษ เจย์ โรดริเกซ
10 FW เบลเยียม มานูเอล เบนสัน
14 DF เวลส์ คอนเนอร์ โรเบิตส์
15 FW อังกฤษ นาธาน เรดมอนด์
16 MF นอร์เวย์ ซานเดอร์ แบร์เก้
17 FW แอฟริกาใต้ ไลล์ ฟอสเตอร์
18 DF สวีเดน ยาลมาร์ เอ็คดาล
19 FW โมร็อกโก อนาสส์ ซารูรี
20 GK อิตาลี เดนิส ฟรันกี
เลข ตำแหน่ง สัญชาติ ผู้เล่น
21 MF อังกฤษ แรมซีย์ แอรอน
22 DF บราซิล วิตินโญ่
24 MF สาธารณรัฐไอร์แลนด์ จอช คัลเลน
25 FW สวิตเซอร์แลนด์ เซกิ แอมดูนี
27 FW มาซิโดเนียเหนือ ดาร์โก้ ชูร์ลินอฟ
28 MF ตูนิเซีย ฮันนิบะอล์ อัลมัจญ์บะรี
29 GK ชิลี ลอว์เรนซ์ วิกูรูซ์
30 FW อิตาลี ลูก้า โคลิโอโช
31 FW เบลเยียม ไมค์ เทรซอร์ (ยืมจาก เคงก์)
34 FW เดนมาร์ก ยาค็อบ บรูน ลาร์เซ่น (ยืมจาก 1899 ฮอฟเฟนไฮม์)
42 MF ฝรั่งเศส อัน-โนอาห์ มาเซนโก้
44 DF เบลเยียม ฮานเนส เดลโครอิกซ์
45 FW สาธารณรัฐไอร์แลนด์ ไมเคิล โอบาเฟมิ
47 FW ฝรั่งเศส วิลสัน โอโดเบิร์ต
48 FW เบลเยียม อีน็อก เอกเย
49 GK คอซอวอ อริยาเน็ต มูริช

ผู้เล่นที่ปล่อยยืม

[แก้]

หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ

เลข ตำแหน่ง สัญชาติ ผู้เล่น
GK ไอร์แลนด์เหนือ อริยาเน็ต มูริช (ไป เอจีเอฟ อาร์ฮุส จนถึง 30 มิถุนายน 2024)
DF อังกฤษ โอเวน ด็อดสัน (ไป บาร์นสลีย์ จนถึง 30 มิถุนายน 2024)
DF สาธารณรัฐไอร์แลนด์ ลุค แม็คแนลลี่ (ไป สโตกซิตี จนถึง 30 มิถุนายน 2024)
เลข ตำแหน่ง สัญชาติ ผู้เล่น
MF สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ซามูเอล บาสเตียง (ไป คาซิมปาซ่า จนถึง 30 มิถุนายน 2024)
MF อังกฤษ สก็อตต์ ทไวน์ (ไป ฮัลล์ซิตี จนถึง 30 มิถุนายน 2024)
FW สาธารณรัฐไอร์แลนด์ ดารา คอสเตลโล (ไป เซนต์ จอห์นสโตน จนถึง 30 มิถุนายน 2024)

หมายเหตุ

[แก้]
  1. สถิตินี้ถูกทำลายโดยอาร์เซนอลในฤดูกาล 2003–04[1]

อ้างอิง

[แก้]
  1. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ RememberingRecord
  2. หน้า 14 ต่อจากหน้า 16 กีฬา, แมวดำเฮลั่นบุกขย้ำทอฟฟี่. เดลินิวส์ฉบับที่ 23,950: วันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 แรม 8 ค่ำ เดือน 6 ปีมะแม
  3. "Men". Burnley F.C. สืบค้นเมื่อ 14 July 2023.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]