ข้ามไปเนื้อหา

วิชัย ราชานนท์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

วิชัย ราชานนท์

เกิดวิชัย ขัดโพธิ์
31 มีนาคม พ.ศ. 2511 (56 ปี)
อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น ประเทศไทย
สัญชาติไทย
การศึกษาโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย
โรงเรียนจ่าอากาศ
โรงเรียนเตรียมทหาร
ศิษย์เก่าโรงเรียนนายเรืออากาศ
อาชีพ
พรรคการเมืองไทยรักไทย (พ.ศ. 2544–2548)
ชาติไทย (พ.ศ. 2548–2550)
เพื่อแผ่นดิน (พ.ศ. 2550–2565)
สร้างอนาคตไทย (ตั้งแต่ พ.ศ. 2565)
บุตร1 คน
อาชีพนักมวย
สัญชาติไทย
รายการเหรียญรางวัล
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง
รับใช้ ไทย
แผนก/สังกัดFlag of the กองทัพอากาศไทย กองทัพอากาศไทย
ชั้นยศ นาวาอากาศเอก

นาวาอากาศเอก วิชัย ราชานนท์ เดิมใช้ชื่อว่า วิชัย ขัดโพธิ์ เป็นนักมวยสากลสมัครเล่นคนหนึ่งที่ได้เหรียญทองแดงจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เคยได้เหรียญทองกีฬาซีเกมส์ด้วย ปัจจุบัน เป็นเจ้าของค่ายมวยราชานนท์[1] และเป็นผู้จัดการให้กับ เอฟ 16 ราชานนท์ ซึ่งเป็นนักมวยไทยที่มีชื่อเสียงเช่นกัน[2]

วัยเด็ก

[แก้]

วิชัยเกิดวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2511 ที่ ตำบลบ้านเม็ง อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น เป็นบุตรของนายเคลื่อน ขัดโพธ์ และนางสมัย ราชานนท์ เนื่องด้วยฐานะทางบ้านยากจน ประกอบกับพ่อเห็นว่าวิชัยมีสายเลือดนักสู้ ชอบกีฬาประเภทหมัด ๆ มวย ๆ จึงฝึกให้หัดมวยไทยเมื่อจบ ป.6 จากโรงเรียนบ้านเม็ง พ่อจึงฝากให้หัดมวยกับครูพเยาว์ หันจันทร์ และตระเวนชกตามเวทีแถวบ้าน จนนายวัฒนา กลัดอ่ำ ดึงตัวมาอยู่ร่วมค่ายในชื่อว่า "ชิงชัย ลูกอาทิตย์" พร้อมกับเรียนหนังสือไปด้วย แต่ฐานะทางบ้านก็ไม่ดีขึ้น ซ้ำพ่อถูกหลอกจากบริษัทค้าแรงงานไปต่างประเทศเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก

เพราะเหตุนี้เองวิชัยที่กำลังเรียนใกล้จบชั้น ม.6 จากโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัยแล้วจึงมีความคิดที่จะหาเงินมาช่วยครอบครัว เมื่อจบชั้น ม.6 วิชัยจึงเข้าสมัครสอบที่โรงเรียนจ่าอากาศดอนเมือง ด้วยหวังว่าจะได้ช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวได้บ้าง และเขาก็สอบเข้าโรงเรียนจ่าอากาศได้ลำดับที่114 และหลังจากที่เรียนที่โรงเรียนจ่าอากาศ เขาก็ได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนเตรียมทหาร ระยะเวลา3ปีหลังจากที่จบโรงเรียนเตรียมทหาร เขาก็ได้จบการศึกษาที่โรงเรียนนายเรืออากาศและก็ได้รับพระราชทานยศเป็น เรืออากาศตรี

ชกมวยสากลสมัครเล่น

[แก้]

วิชัยเคยชกมวยสากลสมัครเล่นมาบ้างแล้วที่ขอนแก่น ได้มีโอกาสชกมวยสากลสมัครเล่นอีกเมื่อสโมสรโอสถสภาขาดนักมวยในรุ่นพินเวท ร.ท.ไฉน ผ่องสุภา หัวหน้าค่ายมวยศศิประภายิม ซึ่งทำมวยสากลสมัครเล่นให้กับสโมสรโอสถสภาด้วย ได้ให้วิชัยเข้าชกรายการมวยของกรุงเทพวิชัยแสดงผลงานได้อย่างดี คว้าเหรียญทองได้อย่างเหนือความคาดหมายเมื่อชนะ เมฆินทร์ สุมน แชมป์ประเทศไทยคนก่อนได้ ต่อมาวิชัยย้ายไปอยู่สโมสรทหารอากาศขึ้นชกมวยสากลสมัครเล่นในรายการต่าง ๆ เคยเข้าแข่งขันคัดเลือกเป็นตัวแทนเขต 4 และสามารถเอาชนะคะแนน ไรแมน บุญถม (ซึ่งต่อมาได้เป็นนักมวยเหรียญทองเอเชียนเกมส์ของไทย ในรุ่นเฟเธอร์เวท) ได้สำเร็จ เข้าแข่งขันกีฬาแห่งชาติ แต่ได้เพียงแค่เหรียญทองแแดงเมื่อไปแพ้ต่อ ลูกเขียด เมืองสุรินทร์ ในรอบชิงชนะเลิศ

วิชัยติดทีมชาติเป็นครั้งแรกใน พ.ศ. 2530 ขึ้นชกมวยสากลสมัครเล่นคิงส์คัพ แล้วคว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ จึงได้ติดทีมชาติเป็นครั้งแรก ซึ่งผลงานในระดับทีมชาติของวิชัยผ่านศึกมาอย่างโชกโชน เคยชกที่เอเชียนเกมส์สองครั้งที่ปักกิ่ง ประเทศจีน ในปี พ.ศ. 2533 และฮิโรชิมา ที่ญี่ปุ่น ในปี พ.ศ. 2537 โดยทั้งสองครั้งวิชัยได้เพียงแค่เหรียญทองแดง ในปี พ.ศ. 2534 วิชัยเข้าแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งแรกที่ฟิลิปปินส์ได้เหรียญทอง ซีเกมส์ พ.ศ. 2536 ที่สิงคโปร์ได้เหรียญเงิน และมาได้เหรียญทองอีกครั้งใน ซีเกมส์ พ.ศ. 2538 ที่เชียงใหม่

การชกในระดับกีฬาโอลิมปิกของวิชัยเริ่มต้นไม่ประสบความสำเร็จ โดยครั้งแรกที่มีโอกาสเข้าร่วมคือโอลิมปิกที่โซล ประเทศเกาหลีใต้ ในปี พ.ศ. 2531 ในรุ่นฟลายเวท รอบแรก แพ้ แอนดี อกอสโซ จากเปอร์โตริโก ตกรอบ เมื่อ 18 กันยายน ครั้งต่อมาที่บาร์เซโลนา ประเทศสเปน ในปี พ.ศ. 2535 ในรุ่นฟลายเวท รอบแรกแพ้ มาริโอ ลอช จากเยอรมนี เมื่อ 27 กรกฎาคม[3] ซึ่งวิชัยโชคร้ายศีรษะแตก ถูกจับแพ้ไปทั้ง ๆ ที่ ทำคะแนนเหนือกว่า

ความผิดหวังในกีฬาโอลิมปิกตามมาด้วยการได้แค่เหรียญเงินในกีฬาซีเกมส์ ทำให้วิชัยเริ่มท้อ คิดจะเลิกชกมวยสมัครเล่น ในช่วงนั้นมีข่าวจะวิชัยจะหันมาชกมวยสากลอาชีพแต่ในที่สุดก็ได้ตัดสินใจชกในแบบมวยสมัครเล่นต่อไป เพราะใจยังรักการเป็นทหาร และในช่วงนี้เองที่วิชัยเปลี่ยนมาใช้นามสกุล "ราชานนท์" ของแม่ แทนนามสกุล "ขัดโพธิ์" ของพ่อ

ในโอลิมปิก ครั้งที่ 26 ที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2539 วิชัยได้เลื่อนขึ้นไปชกในรุ่นแบนตั้มเวท โดยผ่านรอบคัดเลือกได้ในการแข่งขันเลกสามที่ไทยเป็นเจ้าภาพ เส้นทางการชกในโอลิมปิกของ วิชัยคือ ขึ้นชกในรุ่นแบนตั้มเวท ประเดิมรอบแรก ชนะคะแนนเคบลาเด้ แลมเบิร์ต จากแคนาดา 12-2 , รอบสอง ชนะคะแนน บาเร็ต คาร์ลอส จากเวเนซุเอาลา 14-6, รอบก่อนรองชนะเลิศที่เป็นรอบชิงเหรียญทองแดงชนะคะแนน ไฮแคม นาฟิล จากโมร็อคโก 13-4 แต่ว่าในรอบรองชนะเลิศวิชัยแพ้คะแนน อิสต์วาน โควากซ์ จากฮังการี 7-12 ได้ครองเหรียญทองแดง (ซึ่งต่อมา อิสต์วาน โควากซ์ ได้ครองเหรียญทอง) ซึ่งการชกโอลิมปิกในครั้งนี้ ทางฝ่ายจัดการแข่งขัน ได้ขึ้นชื่อวิชัยว่า Vichairachanon Khadpo (วิชัยราชานนท์ ขัดโพธิ์) การคว้าเหรียญทองแดงครั้งนี้ของวิชัย ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่วงการกีฬาของไทย โดยเป็นครั้งแรกที่นักกีฬาไทยสามารถครองเหรียญโอลิมปิกพร้อมกันถึง 2 คน (อีกคนหนึ่ง คือ สมรักษ์ คำสิงห์ ซึ่งเป็นนักกีฬารายแรกที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิก) และทำให้วิชัยได้ติดยศ เรืออากาศตรี (ร.ต.) ตามที่ใฝ่ฝัน

ชีวิตครอบครัว

[แก้]

ด้านชีวิตครอบครัว วิชัยไม่ประสบความสำเร็จมากนัก เคยแต่งงานครั้งหนึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2532 มีลูกสาว 1 คน แต่ด้วยภาระครอบครัวที่หนัก ต้องหาเลี้ยงพ่อแม่ และต้องเข้าค่ายซ้อมมวยครั้งละนาน ๆ ทำให้มีปัญหากับภรรยาจนต้องหย่าขาดกันไปในที่สุด

หลังแขวนนวมและการเมือง

[แก้]

หลังจากนั้นวิชัยก็ได้แขวนนวมทันที เนื่องจากอายุมากแล้ว และได้แสดงละครโทรทัศน์ทางช่อง 7 เรื่อง นายขนมต้ม โดยได้แสดงร่วมกับเพื่อนนักมวยอย่าง สมรักษ์ และอีกหลาย ๆ คน บทของวิชัยในเรื่องแสดงเป็นคนที่แอบชอบ กระถิน (อุษณีย์ รักกสิกร) อยู่ จากนั้น วิชัยได้เปิดร้านขายหมูกระทะตามเพื่อนนักมวยหลายคน ได้เป็นผู้บรรยายมวยสากลตามสถานีโทรทัศน์ต่าง ๆ รวมทั้งเป็นโค้ชและผู้ฝึกสอนด้วย

ในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2544 วิชัยลงรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ที่ จังหวัดขอนแก่น อำเภอหนองเรือ บ้านเกิด สังกัดพรรคไทยรักไทย แต่ไมได้รับการเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2548 วิชัยยังคงลงรับเลือกตั้งในพื้นที่เดิมอีก แต่ย้ายไปสังกัดพรรคชาติไทย ก็ไม่ได้รับการเลือกตั้งอีก

และในการเลือกตั้งในปลายปี พ.ศ. 2550 วิชัยมีข่าวว่าอาจจะลงสมัครกับทางพรรคประชาธิปัตย์ แต่ที่สุดก็ได้สังกัดกับพรรคเพื่อแผ่นดิน ลงในพื้นที่เขต 5 กรุงเทพมหานคร ซึ่งประกอบด้วย เขตดอนเมือง, เขตสายไหม และเขตบางเขน แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง

กระทั่งวันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 วิชัยได้เปิดตัวเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 7 จังหวัดขอนแก่น ในสังกัด พรรคสร้างอนาคตไทย[4]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. เจ้าพระยา ท่าพระจันทร์. กีฬา. เนชั่นสุดสัปดาห์. ปีที่ 20 ฉบับที่ 1024. วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2554. ISSN 15135705. หน้า 88
  2. 50 คำตอบมวยดัง. น็อกเอาต์ฉบับมวยสยาม. ปีที่ 23 ฉบับที่ 1980. วันที่ 28 ก.ย.-4 ต.ค. 2554. ISSN 15135438. หน้า 24
  3. "Vichai Khadpo". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-10-01. สืบค้นเมื่อ 2018-05-30.
  4. พรรคสร้างอนาคตไทยลุยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ขอนแก่น
  5. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นต่ำกว่าสายสะพาย ประจำปี ๒๕๖๕, เล่ม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๓ ข หน้า ๑๔, ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๖
  6. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นต่ำกว่าสายสะพาย ประจำปี ๒๕๕๖, เล่ม ๑๓๑ ตอนที่ ๑๑ ข หน้า ๑๕๘, ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๗
  7. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๑๓ ตอนที่ ๑๗ ข หน้า ๒, ๖ กันยายน ๒๕๓๙
  • ชีวิตที่สับสนจนเป็นผู้ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ของวิชัย (ขัดโพธิ์) ราชานนท์. ใน 44 ปีที่รอคอย เหรียญทองประวัติศาสตร์โอลิมปิก 1996 แอตแลนตา สหรัฐอเมริกา. คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย. 2539. หน้า 68–72

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]