ราชวงศ์อาหม
หน้าตา
ราชวงศ์อาหม (ค.ศ. 1228-1826) ปกครองอาณาจักรอาหม ซึ่งปัจจุบันอยู่ในรัฐอัสสัมมาเป็นเวลาเกือบ 600 ปี ราชวงศ์อาหมก่อตั้งขึ้นโดยเจ้าหลวงเสือก่าฟ้า โดยทรงอพยพออกจากเมืองมาวหลวง จนกระทั่งสิ้นสุดลงหลังจากการรุกรานอัสลัมของพม่าและการผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอังกฤษโดยบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษ หลังจากสนธิสัญญายันดาโบ ในปี ค.ศ. 1826
รายพระนามกษัตริย์ในราชวงศ์อาหม
[แก้]ปีที่ครองราชย์ (ค.ศ.) |
จำนวนปี ที่ครองราชย์ |
พระนามอาหม | พระนามอื่น | การสืบสันตติวงศ์ | สิ้นสุดรัชกาล | เมืองหลวง |
---|---|---|---|---|---|---|
1228–1268 | 40 ปี | เจ้าหลวงเสือก่าฟ้า | อพยพออกจากเมืองมาวหลวง ในปี ค.ศ. 1215[1] | สวรรคต | เจ้รายดอย | |
1268–1281 | 13 ปี | เจ้าหลวงเสือใต้ฟ้า | พระราชโอรสในเจ้าหลวงเสือก่าฟ้า | สวรรคต | เจ้รายดอย | |
1281–1293 | 8 ปี | เจ้าหลวงเสือบินฟ้า | พระราชโอรสในเจ้าหลวงเสือใต้ฟ้า | สวรรคต | เจ้รายดอย | |
1293–1332 | 39 ปี | เจ้าหลวงท้าวเสือขางฟ้า | พระโอรสในเจ้าหลวงเสือบินฟ้า | สวรรคต | เจ้รายดอย | |
1332–1364 | 32 ปี | เจ้าหลวงเสือข้ามฟ้า | พระราชโอรสในเจ้าหลวงท้าวเสือขางฟ้า | สวรรคต | เจ้รายดอย | |
1364–1369 | 5 ปี | ว่างกษัตริย์ | ||||
1369–1376 | 7 ปี | เจ้าหลวงเสือตือฟ้า | พระอนุชาธิราชในเจ้าหลวงเสือข้ามฟ้า | ถูกลอบปลงพระชนม์[2] | เจ้รายดอย | |
1376–1380 | 4 ปี | ว่างกษัตริย์ | ||||
1380–1389 | 9 ปี | ท้าวคำถี่ | พระราชโอรสในเจ้าหลวงท้าวเสือขางฟ้า | ถูกลอบปลงพระชนม์[3] | เจ้รายดอย | |
1389–1397 | 8 ปี | ว่างกษัตริย์ | ||||
1397–1407 | 10 ปี | เจ้าฟ้าเสือดัง | พามุนี คุนวาร์ | พระราชโอรสในท้าวคำถี่[4] | สวรรคต | จรากุรา |
1407–1422 | 15 ปี | เจ้าฟ้าเสือยัง | พระราชโอรสในเจ้าฟ้าเสือดัง | สวรรคต | ||
1422–1439 | 17 ปี | เจ้าฟ้าเสือเผือก | พระราชโอรสในเจ้าฟ้าเสือยัง | สวรรคต | ||
1439–1488 | 49 ปี | เจ้าฟ้าเสือแสน | พระราชโอรสในเจ้าฟ้าเสือเผือก | สวรรคต | ||
1488–1493 | 5 ปี | เจ้าฟ้าเสือหาญ | พระราชโอรสในเจ้าฟ้าเสือแสน | ถูกลอบปลงพระชนม์[5] | ||
1493–1497 | 4 ปี | เจ้าฟ้าเสือเปี่ยม | พระราชโอรสในเจ้าฟ้าเสือหาญ | สวรรคต | ||
1497–1539 | 42 ปี | เจ้าฟ้าเสือห่มเมือง | สวรรคนารายัน ทิหิงเกียราชาที่ 1 |
พระราชโอรสในเจ้าฟ้าเสือเปี่ยม | ลอบปลงพระชนม์[6] | พกะตา |
1539–1552 | 13 ปี | เจ้าฟ้าเสือกลืนเมือง | คุระหะคะยันราชา (กษัตริย์แห่งครหคาออน) | พระราชโอรสในเจ้าฟ้าเสือห่มเมือง | สวรรคต | ครหคาออน |
1552–1603 | 51 ปี | เจ้าฟ้าเสือข้าม | โขระราชา (กษัตริย์ผู้พิการ) | พระราชโอรสในเจ้าฟ้าเสือกลืนเมือง | สวรรคต | ครหคาออน |
1603–1641 | 38 ปี | เจ้าฟ้าเสือแสง | ประตาปสิงห์ บุรฮาราชา พุทธิสวรรคนารายัน |
พระราชโอรสในเจ้าฟ้าเสือข้ามฟ้า | สวรรคต | ครหคาออน |
1641–1644 | 3 ปี | เจ้าฟ้าเสือรอม | ชยทิตยะ สิงห์ ภคราชา |
พระราชโอรสในเจ้าฟ้าเสือแสง | ถูกปลดออกจากตำแหน่ง[7] | ครหคาออน |
1644–1648 | 4 ปี | เจ้าฟ้าเสือชิงเมือง | นริยาราชา (กษัตริย์ผู้ประชวรบ่อย) | พระอนุชาธิราชในเจ้าฟ้าเสือรอม | ถูกปลดออกจากตำแหน่ง[8] | ครหคาออน |
1648–1663 | 15 ปี | เจ้าฟ้าเสือดำมา | ชยธวัช สิงห์ ภคนิยาราชา |
พระราชโอรสในเจ้าฟ้าเสือชิงเมือง | สวรรคต | ครหคาออน/พกะตา |
1663–1670 | 7 ปี | เจ้าฟ้าเสือเปิงเมือง | จักรธวัช สิงห์ | พระญาติในเจ้าฟ้าเสือดำมา[9] | สวรรคต | พกะตา/ครหคาออน |
1670–1672 | 2 ปี | เจ้าเสือหยาดฟ้า | อุทัยยาทิตยะ สิงห์ | พระอนุชาธิราชในเจ้าฟ้าเสือเปิงเมือง | ถูกปลดออกจากตำแหน่ง[10] | |
1672–1674 | 2 ปี | เจ้าเสือกรฟ้า | รามธวัช สิงห์ | พระอนุชาธิราชของเจ้าเสือยาดฟ้า | ถูกวางยาพิษ[11] | |
1674–1675 | 21 วัน | เจ้าคำยัง | สะมะกุรียา ราชา | สืบเชื้อสายจากเจ้าฟ้าเสือห่มเมือง | ถูกปลดออกจากตำแหน่ง[12] | |
1675-1675 | 24 วัน | ไม่มีพระนามอาหม | โคบาร์ราชา | พระราชปนัดดาของเจ้าฟ้าเสือห่ม[13] | ถูกปลดออกจากตำแหน่ง[14] | |
1675–1677 | 2 ปี | เจ้าฟ้าเมืองกลาง | อรชุน คอนวาร์ ทิหิงเกียราชาที่ 2 |
พระราชนัดดาของประตาป สิงห์ พระโอรสในนามรูเปียน โกฮาอิน (Namrupian Gohain) | ปลดออกจาตำแหน่ง, อัตวินิบาตกรรม[15] | |
1677–1679 | 2 ปี | เจ้าเสือเย็นฟ้า | ปรวัติยะ ราชา | พระนัดดาในเจ้าฟ้าเสือห่มเมือง[16] | ถูกปลดออกจากตำแหน่ง, ประหาร [17] | |
1679–1681 | 3 ปี | เจ้าเสือลิกฟ้า (เจ้าผู้ดำ) |
รัตนธวัช สิงห์ ละรา ราชา |
ตระกูลสมะกุรียา | ถูกปลดออกจากตำแหน่ง, ประหาร[18] | |
1681–1696 | 15 ปี | เจ้าเสือปาดฟ้า | คทาธาร สิงห์ | พระราชโอรสในโคบาร์ราชา | สวรรคต | บอร์โกลา |
1696–1714 | 18 ปี | เจ้าเสือขรุงฟ้า | รุทระ สิงห์ | พระราชโอรสในเจ้าเสือปาดฟ้า | สวรรคต | รังปุระ |
1714–1744 | 30 ปี | เจ้าเสือต้อนฟ้า | สิพะ สิงห์ | พระราชโอรสในเจ้าเสือขรุงฟ้า | สววรคต | |
1744–1751 | 7 ปี | เจ้าเสือแดนฟ้า | ประมัตตะ สิงห์ | พระอนุชาธิราชในเจ้าเสือต้อนฟ้า | สวรรคต | |
1751–1769 | 18 ปี | เจ้าเสือแรมฟ้า | ราเชศวร สิงห์ | พระอนุชาธิราชในพระเจ้าเสือแดนฟ้า | สวรรคต | |
1769–1780 | 11 ปี | เจ้าเสือใหญ่งำเมือง (เสือใหญ่ฟ้า) |
ลักษมี สิงห์ | พระอนุชาธิราชในเจ้าเสือแรมฟ้า | สวรรคต | |
1780–1795 | 15 ปี | เจ้าเสือเฮ็ดเปิงเมืองงำ | โกรินาถ สิงห์ | พระราชโอรสในเจ้าเสือใหญ่งำเมือง | สวรรคต | โชรหัท |
1795–1811 | 16 ปี | เจ้าเสือหิงฟ้า | กมเลศวร สิงห์ | เหลนของแลชัย (Lechai) พระอนุชาในเจ้าเสือขรุงฟ้า[19] | สวรรคตด้วยโรคฝีดาษ | โชรหัท |
1811–1818 | 17 ปี | เจ้าเสือเดือนฟ้า (1) | จันทรกานต์ สิงห์ | พระอนุชาธิราชในเจ้าเสือหิงฟ้า | ถูกปลดออกจากตำแหน่ง[20] | โชรหัท |
1818–1819 | 1 ปี | ไม่มีพระนามอาหม | ปุรันทาร สิงห์ (1) | สืบเชือสายจากเจ้าเสือแรมฟ้า[20] | ถูกปลดออกจากตำแหน่ง[21] | โชรหัท |
1819–1821 | 2 ปี | เจ้าเสือเดือนฟ้า (2) | จันทรกานต์ สิงห์ | เสด็จออกจากเมืองหลวง[22] | ||
1821–1822 | 1 ปี | ไม่มีพระนามอาหม | โชเคศวร สิงห์[note 1] | หุ่นเชิดของกษัตริย์พม่า เป็นน้องชายของพระมเหสีในพระเจ้าบาจีดอ[23] สืบเชื้อสายมาจากชัมพร โคฮาอิน (Jambar Gohain) พระอนุชาในเจ้าเสือปาดฟ้า[24] | ย้ายออก[25] | |
1833–1838 | 5 ปี | ไม่มีพระนามอาหม | ปุรันทาร สิงห์ (2)[26] | ถูกปลดออกจากตำแหน่ง |
เชิงอรรถ
[แก้]- ↑ ส่วนเดียวของอาณาจักรอาหมที่รอดพ้นจากการอยู่ภายใต้อาณัติแห่งพม่า คือดินแดนแม่น้ำบุรี ทิหิง (Buri Dihing) และแม่น้ำพรหมบุตร ซึ่งพวกโมอามาริอา ภายใต้การนำของประมุข บาร์ เสนะปติ ยังคงรักษาเอกราชไว้ได้
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Gogoi 1968:253 ในพงศาวดารอาหมบุราณจีหลายแห่งกล่าวว่าพระองค์เสด็จออกมาจากเมืองมาวหลวง แต่ชาวไตบางส่วนเชื่อว่าพระองค์เสด็จออกมาจากเมืองมีด (Mong Mit) ไม่ใช่เมืองมาว ในปี ค.ศ. 1227 และในปี ค.ศ. 1209 พระองค์ได้ครองเมืองมีด ทันใดนั้นพระเจ้าเสือข่านฟ้า กษัตริย์แห่งเมืองมาว ได้เสด็จมาโจมตีเมืองมีด
- ↑ Gogoi 1968:273. ถูกลอบปลงพระชนม์โดยกษัตริย์ชุติยะขณะเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคด้วยกัน
- ↑ Gogoi 1968:274. ท้าวคำถี่ทรงอยู่ภายใต้พระมเหสีมากเกินไป ขุนนางผู้ใหญ่จึงพร้อมใจกันลอบปลงพระชนม์
- ↑ Gogoi 1968:274-275. เจ้าฟ้าเสือดังประสูติแต่พระมเหสีองค์ที่สองพระท้าวคำถี่ในหมู่บ้านพราหมณ์แห่งฮาบุง
- ↑ Gogoi 1968:282, พระองค์ถูกลอบปลงพระชนม์โดยชนเผ่าไทตุรุง เพื่อแก้แค้นที่พระองค์ลงโทษพวกเขาในข้อหาลักทรัพย์
- ↑ Gogoi 1968:309. พระองค์ถูกลอบปลงพระชนม์ตามการวางแผนของเจ้าฟ้าเสือกลืนเมือง พระราชโอรสของพระองค์
- ↑ Gogoi 1968:386. พระองค์ถูกเหล่าขุนนางปลดออกจากตำแหน่ง เนื่องจากพระองค์ยืนยันที่นำบุตรชายของเหล่าขุนนางฝังทั้งเป็นไว้ในหลุมศพ (มอยด้ำ) ของพระโอรสบุญธรรม ภายหลังพระองค์ได้ถูกลอบปลงพระชนม์โดยพระนัดดา (เป็นบุตรของพระอนุชา) และได้ตำแหน่งกษัตริย์แห่งอาหมต่อไป
- ↑ Gogoi 1968:391-392. พระองค์ร่วมกับพระอัครมเหสีแต่งตั้งพระโอรสและขุนนางที่ไม่เป็นที่น่าพึงพอใจ ภายหลังพระองค์จึงถูกปลด และถูกลอบปลงพระชนม์โดยพระราชโอรสของพระองค์เองซึ่งต่อมาได้ครองราชย์เป็นเจ้าฟ้าเสือดำมา
- ↑ Gogoi 1968:448. เจ้าฟ้าเสือเปิงเมืองเป็นพระนัดดาแห่งเสือเลง (เทวราชา) ซึ่งเป็นพระราชโอรสในเจ้าฟ้าเสือห่ม
- ↑ Gogoi 1968:479-482 พระองค์ถูกพระอนุชาธิราชเข้าบุกรุกพระราชวัง ภายใต้การยุยงของละศัม เทเพรา (Lasham Debera) ในวันรุ่งขึ้นอุทัยยาทิตยะถูกส่งไปยังเจ้รายดอยและถูกลอบปลงพระชนม์ด้วยยาพิษ ส่วนพระมเหสีทั้งสามพระองค์ก็ถูกประหารชีวิต
- ↑ Gogoi 1968:484 รามธวัช สิงห์ ถูกวางยาพิษลอบปลงพระชนม์โดยการวางแผนของเทเพรา บอร์บารัว (Debera Borbarua) เมื่อพระองค์ทรงตรวจสอบอำนาจของเขา
- ↑ Gogoi 1968:486 ถูกปลดโดยเทเพรา บอร์บารัว ภายหลังก็ได้ประหารชีวิตพระองค์พร้อมด้วยพระมเหสีและพระอนุชาของพระมเหสี
- ↑ โคบาร์ ราชาเป็นพระโอรสในสารังคะ (Saranga) ซึ่งเป็นพระโอรสในเสือแท่น (Su Ten) พระราชโอรสในเจ้าฟ้าเสือห่ม
- ↑ Gogoi 1968:486-488 โคบาร์ ราชา ถูกปลดและถูกประหารโดยสาไรฆาติยะ (Saraighatia ผู้นำแห่งสาไรฆาต/กูวาหติ) นำโดยอะตัน บุรฮาโกฮาอิน (Atan Burhagohain) โดยเป้าหมายของเขาคือกำจัดเทเพรา บอร์บารัว ที่ตั้งโคบาร์ราชา เพื่อเป็นหุ่นเชิด
- ↑ Gogoi 1968:489 พระองค์ทรงถูกอะตัน บุรฮาโกฮาอิน วางแผนประทุษร้ายจนเกิดการต่อสู้กัน โดยพระองค์พ่ายแพ้ต่อสงคราม พระองค์ทรงพยายามหลบหนีไปยังครหคาออน แต่ถูกจับได้ พระองค์ถูกควักพระเนตร ท้ายที่สุดพระองค์ได้ทำร้ายพระเศียรด้วยก้อนหินจนสวรรคต พระศพถูกฝังในเจ้รายดอย
- ↑ Gogoi 1968:490 พระองค์เป็นพระโอรสใน เสือแตง (Su Teng) เป็นพระโอรสองค์ที่สามในเจ้าฟ้าเสือห่มเมือง
- ↑ Gogoi 1968:492-493 เจ้าเสือเย็นฟ้าถูกปลดโดยลาลุก-โสลา บอร์พูคาน ซึ่งต่อมาพระองค์ก็ถูกประหารชีวิต ซึ่งเป็นแผนการของอะตัน บุรฮาโกฮาอิน ขุนนางที่ทรงอิทธิพลในราชสำนักอาหม
- ↑ Gogoi 1968:496-497 พระองค์ถูกปลดและประหารชีวิตโดยคทาธาร สิงห์
- ↑ Baruah 1993:148-150 พระองค์ถูกสถาปนาเป็นกษัตริย์โดยปุรณนันทะ บุรฮาโกฮาอิน (Purnananda Burhagohain) เมื่อครั้งยังเป็นทารก พระองค์เป็นโอรสในกะดัม ทิฆาละ (Kadam Dighala) ซึ่งเป็นโอรสของอะยูสุต (Ayusut) ซึ่งเป็นโอรสของแลชัย (Lechai) ซึ่งเป็นพระราชโอรสในเจ้าเสือปาดฟ้า ส่วนพระชนกคือ กะดัม ทิฆาละไม่สามารถครองราชย์ได้ เนื่องจากมีร่างกายไม่สมบูรณ์
- ↑ 20.0 20.1 Baruah 1992:221 พระองค์ถูกปลดออกจากตำแหน่งโดยรุจินาถ บุรฮาโกฮาอิน พระองค์ถูกตัดพระกรรณข้างขวาและถูกจองจำใกล้กรุงโชรหัท ดังนั้นปุรันทาร สิงห์ ผู้สืบเชื้อสายจากเจ้าเสือแรมฟ้าจึงได้ดำรงตำแหน่ง สวรรคเทวะ แทนเจ้าเสือเดือนฟ้า
- ↑ Baruah 1992:221-222 กองทัพของปุรันทาร สิงห์ ที่นำทัพโดยจักนาถ เทเกียล พูคาน (Jaganath Dhekial Phukan) ได้รับความพ่ายแพ้จากกองทัพพม่าที่นำทัพโดย นายพลเกียเมงจี (general Kee-Woomingee หรือ Kiamingi หรือ Alumingi Borgohain) ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1819 และโชรหัทตกอยู่ในมือของพม่า แม่ทัพพม่าจึงได้อัญเชิญเจ้าเสือเดือนฟ้ากลับมาครองราชย์อีกครั้งหนึ่ง
- ↑ Baruah 1992:223 จันทรกานต์ สิงห์เสด็จออกจากเมืองหลวงโชรหัท ไปยังเมืองกูวาหติ เมื่อกองทัพของพระเจ้าบาจีดอแห่งพม่า ซึ่งนำทัพโดยเมงจีมหาติลวะเข้าล้อมกรุงโชรหัท
- ↑ Baruah 1992:223. โชเคศวร สิงห์ เป็นน้องชายของเฮโม ไอเทว หนึ่งในพระมเหสีของพระเจ้าบาจีดอแห่งพม่า ได้รับการสถาปนาเป็นกษัตริย์แห่งอัสสัมโดย เมงจีมหาติลวะ (Mingimaha Tilwa)
- ↑ Bhuyan Dr. S.K. Tunkhungia Buranji or A History of Assam (1681-1826) second edition 1968 Department of HISTORICAL AND ANTIQUARIAN STUDIES IN ASSAM Guwahati page 213
- ↑ Baruah 1992:225 โชเคศวร สิงห์ได้ออกจากอำนาจกษัตริย์ที่ได้มาจากเมงจีมหาติลวะ โดยสิ้นสุดตำแหน่ง ราชาแห่งอัสสัม ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1822
- ↑ Baruah 1992:244 ปุรันทาร สิงห์ถูกตั้งขึ้นโดยบริษัทอินเดียตะวันออก (East India Company) ถือเป็นเพียงราชาที่ปกครองดินแดนย่อยในแถบอัสสัมตอนบน
- Baruah, S. L. (1993), Last Days of Ahom Monarchy, Munshiram Manoharlal Publishers Pvt Ltd, New Delhi
- Gogoi, Padmeshwar (1968), The Tai and the Tai kingdoms, Gauhati University, Guwahati
- อาจารย์เรณู วิชาศิลป์ (แปล-เรียบเรียง). พงศาวดารไทอาหม (Ahom Buranji) เล่ม 2, อมรินทร์พริ้นติ้ง:กรุงเทพฯ, 2539. หน้า 11-12
- งานค้นคว้าเรื่องชนชาติไทย ของ พลตรี หลวงวิจิตรวาทการ
- ประวัติศาสตร์ชนชาติไท ของ กัญญา ลีลาลัย