ปฏิทินจีน
ปฏิทินจีน (จีน: 農曆) หมายถึง ปฏิทินสุริยคติหรือปฏิทินจันทรคติซึ่งชาวจีนหรือชาวต่างประเทศเชื้อสายจีนใช้ในทางราชการและการกำหนดวันสำคัญต่าง ๆ
ในการติดต่อราชการ-ธุรกิจ ชาวจีนใช้ปฏิทินสุริยคติสากลเช่นเดียวกับชาวตะวันตกและอีกหลายประเทศทั่วโลก แต่การกำหนดประเพณีสำคัญจะอาศัยปฏิทินจันทรคติเป็นหลักเสมอ ปฏิทินสุริยคติจีน กำหนดให้เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ดับที่ใกล้กับวันเหมายัน หรือวันที่ซีกโลกเหนือมีกลางวันสั้นที่สุด ส่วนปฏิทินจันทรคติจีน กำหนดให้เริ่มขึ้นปีนักษัตรใหม่ในวันลี่ชุน แต่เริ่มปีใหม่ในวันตรุษจีน ซึ่งเป็นวันจันทร์ดับต้นฤดูใบไม้ผลิ มักอยู่ในเดือนกุมภาพันธ์หรือปลายเดือนมกราคมของทุกปี
ปฏิทินจีนยุคโบราณ
[แก้]ปฏิทินโบราณแบบหนึ่งซึ่งจัดพิมพ์ในสมัยหวงตี้เตี้ยวลี่ (จีนตัวเต็ม: 黄帝調曆; จีนตัวย่อ:黄帝调历; พินอิน: Huángdì Diàolì") เป็นปฏิทินชนิดหลายปีซึ่งมี 8 ปีปกติมาส และ 4 ปีอธิกมาส จัดเรียงกันแล้วแต่จังหวะดิถีของดวงจันทร์ที่สังเกตหรือคำนวณได้ ตั้งต้นเดือนแรกที่วันตงจื้อ อนึ่ง ปฏิทินชนิดนี้ได้มีการจัดทำมานานตั้งแต่ก่อนพุทธศักราช 3834 ปี จะต่างกันก็ตรงที่เดือนแรกของปฏิทินแตกต่างกันออกไป ย้อนกลับไปยุคราชวงศ์ซาง ปฏิทินแบบดังกล่าวก็ได้ถูกพัฒนาแล้ว แต่เขียนไว้บนกระดูกเสี่ยงทาย ในปฏิทินนั้นมีการเพิ่มเดือนอธิกมาส 1 - 2 เดือน โดยอาศัยการสังเกตเป็นหลัก ทำให้ขาดความแม่นยำ ครั้นถึงราชวงศ์โจว (หลัง) การจัดเรียงเดือนก็พัฒนาให้เป็น 29 วัน สลับกับ 30 วัน โดยอาจมีเดือนอธิกมาสเพิ่มขึ้นมาก็ได้ ยุทธหัตถี กระนั้นข้อมูลก็ยังยึดตามการสังเกตเป็นหลัก จนในที่สุด เทคนิคทางคณิตศาสตร์และดาราศาสตร์สมัยยุคจ้านกว๋อ ก็ได้ทำให้ปฏิทินมีความแม่นยำสูงขึ้น ครานั้นเอง ได้มีการกำหนดให้หนึ่งปีสุริยคติมี 365¼ วัน คล้ายกับปฏิทินจูเลียน และกำหนดให้ 19 ปี มี 235 เดือน เรียกว่า วัฏจักรเมตอน (Metonic cycle)[1]
ครั้นราชวงศ์ฉิน ปฏิทินจีนก็ถูกปรับอีกครั้งหนึ่ง โดยให้วันแรกของเดือนแรกไปอยู่ที่วันจันทร์ดับของต้นฤดูหนาว แต่ถึงกระนั้นก็มีปฏิทินที่ใช้หลักเกณฑ์เดิมอันตกทอดมาแต่โบราณ ซึ่งยังมิได้เลิกใช้ ถึงกระนั้นปฏิทินเหล่านั้นก็สูญหายไปตามกาลเวลา[2] เมื่อการพิมพ์พัฒนาขึ้น ชาวจีนได้จัดพิมพ์ปฏิทินลงในสมุดกระดาษ โดยมีหลักฐานชิ้นแรก ๆ พบที่ตุนหวง (敦煌) [3][4]
การนับเวลาแบบจีนโบราณ
[แก้]ชาวจีนโบราณใช้นาฬิกาแดดและนาฬิกาน้ำเป็นเครื่องมือบอกเวลา บนนาฬิกาแดดมีช่วงแบ่งเป็น 12 ช่วง แต่ละช่วงหมายถึงหนึ่งชั่วยาม (จีนตัวย่อ: 时; จีนตัวเต็ม: 時; คำอ่าน: สือ) ซึ่งกินเวลา 2 ชั่วโมง ส่วนนาฬิกาน้ำจะแบ่งเวลา 24 ชั่วโมงออกเป็นชั่วรอยขีด (刻;เค่อ) จำนวน 100 ช่วง แต่ละช่วงกินเวลา 14 นาที 36 วินาที นอกจากนี้แล้ว ในหนึ่งวันยังแบ่งได้เป็น 10 เกิง (更) เกิงหนึ่งกินเวลา 1 ชั่วโมง 12 นาที และหนึ่งคืน 5 เกิง แต่ละเกิงกินเวลา 2 ชั่วโมง 24 นาที โดยหน่วยย่อยของเกิงคือเตี่ยน (จีนตัวย่อ: 点; จีนตัวเต็ม:點) ซึ่งกินเวลา 24 นาที
แผนภูมิสวรรค์-พิภพ
[แก้]ในปฏิทินจีน มักมีการกำหนดให้วัน เดือน ปี หรือแม้แต่ยุคประกอบไปด้วยอักษรจีนประจำ ซึ่งอักษรนั้นเป็นส่วนหนึ่งของแผนภูมิสวรรค์-พิภพ อักษรประจำสวรรค์มีทั้งหมด 10 ตัว ส่วนอักษรประจำพิภพ มีทั้งหมด 12 ตัว ดังแสดงในตาราง[5]
แผนภูมิสวรรค์
[แก้]อักษรในแผนภูมิสวรรค์มี 10 ตัว โดย 2 ตัว จะมีธาตุหนึ่งประจำอยู่ ดังนี้
อักษรภาคสวรรค์ | 甲 | 乙 | 丙 | 丁 | 戊 | 己 | 庚 | 辛 | 壬 | 癸 |
คำอ่าน | เจี่ย (jiǎ) | อี่ (yǐ) | ปิ่ง (bǐng) | ติง (dīng) | อู้ (wù) | จี่ (jǐ) | เกิง (gēng) | ซิน (xīn) | เหริน (rén) | กุ่ย (guǐ) |
กะ | อิก | เปี้ย | เต็ง | โบ่ว | กี้ | แก | ซิง | ยิ้ม | กุ่ย | |
ธาตุประจำ | ไม้ (木) | ไฟ (火) | ดิน (土) | ทอง (金) | น้ำ (水) |
แผนภูมิพิภพ
[แก้]อักษรในแผนภูมิพิภพมี 12 ตัว แต่ละตัวแทนปีนักษัตร อนึ่ง ในช่องปีนักษัตรจีน อักษรจีนที่แสดงในวงเล็บ คือ อักษรจีนตัวย่อ ส่วนนอกวงเล็บเป็นอักษรจีนตัวเต็ม
อักษรภาคพิภพ | 子 | 丑 | 寅 | 卯 | 辰 | 巳 | 午 | 未 | 申 | 酉 | 戌 | 亥 |
คำอ่าน | จื่อ (zǐ) | โฉ่ว (chǒu) | อิ๋น (yín) | หม่าว (mǎo) | เฉิน (chén) | ซื่อ (sì) | อู่ (wǔ) | เว่ย (wèi) | เซิน (shēn) | โหย่ว (yǒu) | ซวี (xū) | ฮ่าย (hài) |
จื้อ | ทิ่ว | เอี้ยง | เบ้า | ซิ้ง | จี๋ | โง่ว | บี่ | ซิม | อิ้ว | สุก | ไห | |
ปีนักษัตรจีน | 鼠 | 牛 | 虎 | 兔 | 龍 (龙) | 蛇 | 馬 (马) | 羊 | 猴 | 鷄 (鸡) | 狗 | 猪 |
คำอ่าน | สู่ (shǔ) | หนิว (niú) | หู่ (hǔ) | ทู่ (tù) | หลง (lóng) | เสอ (shé) | หม่า (mǎ) | หยาง (yáng) | โห (hóu) | จี (jī) | โก่ว (gǒu) | จู (zhū) |
ปีนักษัตรไทย | ชวด | ฉลู | ขาล | เถาะ | มะโรง | มะเส็ง | มะเมีย | มะแม | วอก | ระกา | จอ | กุน |
อักษรภาคสวรรค์และพิภพสามารถนำมาจับคู่กัน ซึ่งมีคู่ที่เป็นไปได้ทั้งหมด 60 คู่ด้วยกัน ได้แก่[6]
ลำดับที่ | อักษรคู่ | นามปี | ลำดับที่ | อักษรคู่ | นามปี | ลำดับที่ | อักษรคู่ | นามปี |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | 甲子 | หนูไม้ (木鼠) | 21 | 甲申 | ลิงไม้ (木猴) | 41 | 甲辰 | มังกรไม้ (木龍) |
2 | 乙丑 | วัวไม้ (木牛) | 22 | 乙酉 | ไก่ไม้ (木鷄) | 42 | 乙巳 | งูไม้ (木蛇) |
3 | 丙寅 | เสือไฟ (火虎) | 23 | 丙戌 | สุนัขไฟ (火狗) | 43 | 丙午 | ม้าไฟ (火馬) |
4 | 丁卯 | กระต่ายไฟ (火兔) | 24 | 丁亥 | สุกรไฟ (火猪) | 44 | 丁未 | แพะไฟ (火羊) |
5 | 戊辰 | มังกรดิน (土龍) | 25 | 戊子 | หนูดิน (土鼠) | 45 | 戊申 | ลิงดิน (土猴) |
6 | 己巳 | งูดิน (土蛇) | 26 | 己丑 | วัวดิน (土牛) | 46 | 己酉 | ไก่ดิน (土鷄) |
7 | 庚午 | ม้าทอง (金馬) | 27 | 庚寅 | เสือทอง (金虎) | 47 | 庚戌 | สุนัขทอง (金狗) |
8 | 辛未 | แพะทอง (金羊) | 28 | 辛卯 | กระต่ายทอง (金兔) | 48 | 辛亥 | สุกรทอง (金猪) |
9 | 壬申 | ลิงน้ำ (水猴) | 29 | 壬辰 | มังกรน้ำ (水龍) | 49 | 壬子 | หนูน้ำ (水鼠) |
10 | 癸酉 | ไก่น้ำ (水鷄) | 30 | 癸巳 | งูน้ำ (水蛇) | 50 | 癸丑 | วัวน้ำ (水牛) |
11 | 甲戌 | สุนัขไม้ (木狗) | 31 | 甲午 | ม้าไม้ (木馬) | 51 | 甲寅 | เสือไม้ (木虎) |
12 | 乙亥 | สุกรไม้ (木猪) | 32 | 乙未 | แพะไม้ (木羊) | 52 | 乙卯 | กระต่ายไม้ (木兔) |
13 | 丙子 | หนูไฟ (火鼠) | 33 | 丙申 | ลิงไฟ (火猴) | 53 | 丙辰 | มังกรไฟ (火龍) |
14 | 丁丑 | วัวไฟ (火牛) | 34 | 丁酉 | ไก่ไฟ (火鷄) | 54 | 丁巳 | งูไฟ (火蛇) |
15 | 戊寅 | เสือดิน (土虎) | 35 | 戊戌 | สุนัขดิน (土狗) | 55 | 戊午 | ม้าดิน (土馬) |
16 | 己卯 | กระต่ายดิน (土兔) | 36 | 己亥 | สุกรดิน (土猪) | 56 | 己未 | แพะดิน (土羊) |
17 | 庚辰 | มังกรทอง (金龍) | 37 | 庚子 | หนูทอง (金鼠) | 57 | 庚申 | ลิงทอง (金猴) |
18 | 辛巳 | งูทอง (金蛇) | 38 | 辛丑 | วัวทอง (金牛) | 58 | 辛酉 | ไก่ทอง (金鷄) |
19 | 壬午 | ม้าน้ำ (水馬) | 39 | 壬寅 | เสือน้ำ (水虎) | 59 | 壬戌 | สุนัขน้ำ (水狗) |
20 | 癸未 | แพะน้ำ (水羊) | 40 | 癸卯 | กระต่ายน้ำ (水兔) | 60 | 癸亥 | สุกรน้ำ (水猪) |
สังเกตว่า เมื่อนำอักษรภาคสวรรค์และพิภพมาจับคู่กัน จะได้เป็นอักษรคู่ซึ่งแสดงถึงปีนักษัตรและธาตุได้ ในปี พ.ศ. 2543 มีอักษรประจำปีเป็น 庚辰 อันมีความหมายเป็น 金龍 หรือมังกรทอง ส่วนปี พ.ศ. 2553 หรือ 10 ปีให้หลัง จะได้ว่าอักษรประจำปีเป็น 庚寅 ซึ่งมีความหมายว่าเสือทอง (金虎)
นอกเหนือจากการใช้อักษรภาคสวรรค์และพิภพบ่งบอกปีแล้ว ยังสามารถนำอักษรเหล่านี้ไประบุยุคได้อีกด้วย
ปฏิทินสุริยคติจีน
[แก้]บทนำ
[แก้]ปฏิทินสุริยคติจีน ยึดถือตามวันบัวลอย วันตงจื้อ หรือวันเห"มายัน ของปีหนึ่งไปจนถึงอีกปีหนึ่ง ในหนึ่งปีถูกแบ่งออกเป็น 24 ฤดูกาล แต่ละฤดูกาลหมายถึงสภาพอากาศที่แตกต่างกันออกไป ในยุคชุนชิว (179 ปีก่อนพุทธศักราช - พ.ศ. 63) ปีสุริยคติถูกกำหนดไว้ที่ 365.25 วัน[1] ในเวลาต่อมา ปฏิทินในรัชสมัยสมเด็จพระจักรพรรดิฮั่นบู๊เต้ได้ระบุว่าปีสุริยคติมีความยาว [1] ต่อมาได้มีการแก้ไขปรับปรุงโดยนักทำปฏิทินอีกหลายท่าน อาทิ หลี่ฉุนเฟิ่ง (李淳风) จางสุ้ย (張遂) และกัวโส่วจิ้ง (郭守敬) ซึ่งในชั้นหลังนี้กัวโส่วจิ้งได้ปรับปรุงปฏิทินให้มีความยาวปีสั้นลงเท่ากับของปฏิทินเกรกอเรียน นั่นคือ 365.2425[1][7] โดยอาศัยงานที่เสิ่นคั่ว (沈括) ได้ทำไว้ในสาขาตรีโกณมิติเชิงทรงกลม[8][9][10] ปีสุริยคติจีนสามารถแบ่งได้เป็นระยะ แต่ละระยะจะมีอักษรภาคดิน 12 ตัว กำกับอยู่ ดังนี้
เดือนสุริยคติ | อักษรประจำ | วันที่ | องศาอาทิตย์ | ราศี | อักษรประจำ | ฤดูกาล | วันที่ | องศาอาทิตย์ | ราศี |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
寅 (อิ๋น) ต้นฤดูใบไม้ผลิต |
VC, Vernal Commences เริ่มฤดูใบไม้ผลิ | 3-5 กุมภาพันธ์ | 315° | กุมภ์ | 申 (เซิน) ต้นฤดูใบไม้ร่วง |
AC, Autumn Commences เริ่มฤดูใบไม้ร่วง | 7-9 สิงหาคม | 135° | สิงห์ |
VS, ฤดูฝน | 18-20 กุมภาพันธ์ | 330° | 330-360° มีน |
EH, ปลายฤดูร้อน | 22-24 สิงหาคม | 150° | 150-180° กันย์ | ||
卯 (หม่าว) กลางฤดูใบไม้ผลิ |
IA, Insects Waken แมลงโบยบิน | 5-7 มีนาคม | 345° | 酉 (โหย่ว) กลางฤดูใบไม้ร่วง |
WD, White Dew น้ำค้างขาว | 7-9 กันยายน | 165° | ||
VE, Vernal Equinox วสันตวิษุวัต | 20-22 มีนาคม | 360°/0° | 0-30° เมษ |
AE, Autumnal Equinox ศารทวิษุวัต | 22-24 กันยายน | 180° | 180-210° ตุล | ||
辰 (เฉิน) ปลายฤดูใบไม้ผลิ |
BC, Bright and Clear ฟ้าโปร่งสบาย | 4-6 เมษายน | 15° | 戌 (ซวี) ปลายฤดูใบไม้ร่วง |
CD, Cold Dew น้ำค้างเย็น | 8-9 ตุลาคม | 195° | ||
CR, Corn Rain ฝนตกฉ่ำ | 19-21 เมษายน | 30° | 30-60° พฤษภ |
FF, First Frost น่ำค้างแข็ง | 23-24 ตุลาคม | 210° | 210-240° พฤศจิก | ||
巳 (สื้อ) ต้นฤดูร้อน |
SC, Summer Commences เริ่มฤดูร้อน | 5-7 พฤษภาคม | 45° | 亥 (ไฮ่) ต้นฤดูหนาว |
WC,Winter Commences | 7-8 พฤศจิกายน | |||
CF, Corn Forms ข้าวโพดออกรวง | 20-22 พฤษภาคม | 60° | 60-90° เมถุน |
LS, Light Snow หิมะตกเบา | 22-23 พฤศจิกายน | 240° | 240-270° ธนู | ||
อู่ (午) กลางฤดูร้อน |
CE, Corn on Ear ข้าวโพดสุกพร้อมเก็บ | 5-7 มิถุนายน | 75° | จื่อ (子) กลางฤดูหนาว |
HS, Heavy Snow หิมะตกหนัก | 6-8 ธันวาคม | 255° | ||
SS, Summer Solstice ครีษมายัน | 21-22 มิถุนายน | 90° | 90-120° กรกฎ |
WS, Winter Solstice เห"มายัน | 21-23 ธันวาคม | 270° | 270-300° มกร | ||
เว่ย (未) Late Summer |
MH, Moderate Heat ร้อนพอควร | 6-8 กรกฎาคม | 105° | โฉ่ว (丑) Late Winter |
MC, Moderate Cold หนาวพอควร | 5-7 มกราคม | 285° | ||
GH, Great Heat ร้อนจัด | 22-24 กรกฎาคม | 120° | สิงห์ | GC, Great Cold หนาวจัด | 20-21 มกราคม | 300° | กุมภ์ |
วันในสัปดาห์
[แก้]วันในสัปดาห์แบบจีน ซึ่งใช้ได้ในปฏิทินทุกรูปแบบ เรียกตามลำดับดังนี้[11]
วันแบบไทย | วันแบบจีน | ||||
---|---|---|---|---|---|
แบบปกติ | แบบโหร | แบบเก่า | แบบที่ใช้ในชีวิตประจำวัน | ||
วันอาทิตย์ | รวิวาร หรือ อาทิจวาร | 日曜 | รื่อเย่า (rìyào) | 星期日 | ซิงชีรื่อ (xīngqīrì) |
วันจันทร์ | จันทรวาร | 月曜 | เยฺว่เย่า (yuèyào) | 星期一 | ซิงชีอี (xīngqīyī) |
วันอังคาร | ภุมวาร | 火曜 | หั่วเย่า (huǒyào) | 星期二 | ซิงชีเอ้อร์ (xīngqīèr) |
วันพุธ | วุธวาร | 水曜 | สุ่ยเย่า (shuǐyào) | 星期三 | ซิงชีซาน (xīngqīsān) |
วันพฤหัสบดี | ครุวาร หรือ ชีววาร | 木曜 | มู่เย่า (mùyào) | 星期四 | ซิงชีสื้อ (xīngqīsì) |
วันศุกร์ | ศุกรวาร | 金曜 | จินเย่า (jīnyào) | 星期五 | ซิงชีอู่ (xīngqīwǔ) |
วันเสาร์ | โสรวาร | 土曜 | ถู่เย่า (tǔyào) | 星期六 | ซิงชีลิ่ว (xīngqīlìu) |
ชื่อเดือนสุริยคติ
[แก้]ชื่อเดือนซึ่งใชีในปฏิทินสุริยคติ มักจะใช้ตัวเลขต่อด้วยคำว่า เยวฺ่ (月) ซึ่งหมายถึงเดือน[12] ตัวอย่างเช่น 一月 หมายถึงเดือนมกราคม 二月 หมายถึงเดือนกุมภาพันธ์ เรื่อยไปจนถึง 十二月
เดือนจีน[ม 1] | คำอ่าน | เดือนอย่างภารตะและไทย |
---|---|---|
一月 | อีเยวฺ่ ( yīyuè) | มกราคม |
二月 | เอ้อร์เยวฺ่ (èryuè) | กุมภาพันธ์ |
三月 | ซานเยวฺ่ (sānyuè) | มีนาคม |
四月 | สื้อเยวฺ่ (sìyuè) | เมษายน |
五月 | อู่เยวฺ่ (wǔyuè) | พฤษภาคม |
六月 | ลิ่วเยวฺ่ (liùyuè) | มิถุนายน |
七月 | ชีเยวฺ่ (qīyuè) | กรกฎาคม |
八月 | ปาเยวฺ่ (bāyuè) | สิงหาคม |
九月 | จิ่วเยวฺ่ (jiǔyuè) | กันยายน |
十月 | สือเยวฺ่ (shíyuè) | ตุลาคม |
十一月 | สืออีเยวฺ่ (shíyīyuè) | พฤศจิกายน |
十二月 | สือเอ้อร์เยวฺ่ (shí"èryuè) | ธันวาคม |
อนึ่งหากใส่คำว่า ตี้ (第) ไว้ด้านหน้าตัวเลข จะทำให้ความหมายผิดไป เช่น 第二月 หมายถึงเดือนที่สอง (ของกิจกรรมหรือการกระทำอื่นใด) แทนที่จะเป็นเดือนกุมภาพันธ์
ภาวะ
[แก้]ในหนึ่งปี จะมีภาวะอยู่ 24 ภาวะ (อังกฤษ:solar term; จีนตัวเต็ม:節氣; จีนตัวย่อ: 节气; พินอิน: jiéqì; คำอ่าน: เจี๋ยชี่) (มักเรียกว่า สารท แต่ไม่ถูกความหมายเสียทีเดียว)[ม 2] อันหมายถึงความเป็นไปของสิ่งแวดล้อมรอบตัวในรอบปี และมักมีการเลี้ยงฉลองและบูชาบรรพบุรุษกันในแต่ละภาวะ ภาวะในปฏิทินจีนมีดังนี้
องศาดวงอาทิตย์ | ภาวะ | คำอ่าน | ความหมาย | ประมาณวันที่ |
---|---|---|---|---|
315° | 立春 | ลี่ชุน (lìchūn) | เริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ | 4 กุมภาพันธ์ |
330° | 雨水 | อวี๋สุ่ย (yúshuǐ)[ม 3] | น้ำฝน | 19 กุมภาพันธ์ |
345° | 驚蟄 (惊蛰) | จิงเจ๋อ (jīngzhé) | แมลงโบยบิน | 6 มีนาคม |
0° | 春分 | ชุนเฟิน (chūnfēn) | วสันตวิษุวัต | 21 มีนาคม |
15° | 清明 | ชิงหมิง (qīngmíng) | เย็นใส | 5 เมษายน |
30° | 穀雨 (谷雨) | กู๋อวี่ (gúyǔ)[ม 3] | ฝนเริ่มฤดูเพาะปลูก | 20 เมษายน |
45° | 立夏 | ลี่เซี่ย (lìxià) | เริ่มต้นฤดูร้อน | 6 พฤษภาคม |
60° | 小滿 (小满) | เสียวหม่าน (xiáomǎn)[ม 3] | (ข้าวโพด)ออกดอก | 21 พฤษภาคม |
75° | 芒種 (芒种) | หมางจ้ง (mángzhòng) | (ข้าวโพด)ออกฝัก | 6 มิถุนายน |
90° | 夏至 | เซี่ยจือ (xiàzhì) | ครีษมายัน | 21 มิถุนายน |
105° | 小暑 | เสียวสู่ (xiáoshǔ)[ม 3] | ร้อนพอควร | 7 กรกฎาคม |
120° | 大暑 | ต้าสู่ (dàshǔ) | ร้อนมาก | 23 กรกฎาคม |
135° | 立秋 | ลี่ชิว (lìqiū) | เริ่มฤดูใบไม้ร่วง | 8 สิงหาคม |
150° | 處暑 (处暑) | ฉูสู่ (chúshǔ)[ม 3] | สุดฤดูร้อน | 23 สิงหาคม |
165° | 白露 | ป๋าลู่ (báilù) | น้ำค้างหยด | 8 กันยายน |
180° | 秋分 | ชิวเฟิน (qiūfēn) | ศารทวิษุวัต | 23 กันยายน |
195° | 寒露 | หานลู่ (hánlù) | น้ำค้างเย็น | 8 ตุลาคม |
210° | 霜降 | ซวงเจี้ยง (shuāngjiàng) | น้ำค้างแข็ง | 23 ตุลาคม |
225° | 立冬 | ลี่ตง (lìdōng) | เริ่มฤดูหนาว | 7 พฤศจิกายน |
240° | 小雪 | เสียวเสวี่ย (xiáoxuě) [ม 3] | หิมะพอควร | 22 พฤศจิกายน |
255° | 大雪 | ต้าเสวฺ่ย (dàxuě) | หิมะหนัก | 7 ธันวาคม |
270° | 冬至 | ตงจื้อ (dōngzhì) | เหมายัน | 22 ธันวาคม |
285° | 小寒 | เสี่ยวหาน (xiǎohán) | หนาวน้อย | 6 มกราคม |
300° | 大寒 | ต้าหาน (dàhán) | หนาวจัด | 20 มกราคม |
อนึ่ง องศาของดวงอาทิตย์ที่แสดงไว้ในตาราง จะสัมพันธ์กับโหราศาสตร์ระบบสายนะ (tropical astrology)[13] ซึ่งยึดโยงการเปลี่ยนราศีตามฤดูกาล ไม่เหมือนกับระบบนิรายนะ (sidereal astrology) ที่อาศัยจุดบนท้องฟ้ากำหนดราศี (ดู โหราศาสตร์สากล)
วันลี่ชุน เป็นภาวะหนึ่งในปฏิทินจีนซึ่งหมายถึงการเริ่มของฤดูใบไม้ผลิ และถือว่า ปีนักษัตรใหม่เริ่มต้นวันนี้ (ไม่ใช่วันตรุษจีน)
นามศักราช หรือเหนียนเฟิ่น (年份)
[แก้]ในสมัยโบราณ ชาวจีนมักเรียกปีแต่ละปีเป็นตัวเลขประกอบด้วยนามศักราช เช่น ในรัชสมัยสมเด็จพระจักรพรรดิฮั่นบู๊เต้ ก็กำหนดให้เรียกศักราชสมัยนั้นว่า อี๋กงหยวน (隐公元) เช่น อี๋กงหยวนศก ปีที่ 1 ปีที่ 2... เป็นต้น ในเวลาต่อมา เมื่อ พ.ศ. 431 พระองค์ทรงกำหนดให้เรียกศกย้อนหลังตั้งแต่ พ.ศ. 404 ว่า เจี้ยนหยวนศก ปีที่ 1 ปีที่ 2 โดยลำดับ ธรรมเนียมนี้มีการรักษามาจนถึงสมัยสาธารณรัฐจีน ซึ่งกำหนดให้เรียกปีที่หนึ่งของสาธารณรัฐว่า หมินกั๋ว หรือมิ่นก๊ก (民国) ศก ปีที่ 1 และมีการใช้ต่อมาจนถึงปัจจุบัน แม้จะได้มีการนำคริสต์ศักราช (公元;กงหยวน) มาใช้แทนก็ตาม[14]
ยุคปฏิทิน
[แก้]ปฏิทินฮั่นมีระบบยุค ซึ่งกำหนดให้ 129,600 ปี แทนหนึ่งมหายุค (元;หยวน) แต่ละมหายุคจะแบ่งออกเป็น 12 จุลยุค ซึ่งกินเวลา 10,800 ปี เรียกว่า หุ้ย (会/會) เช่นเดียวกันกับหนึ่งปีที่แบ่งเป็น 12 เดือน แต่ละจุลยุค มีอักษรภาคดินประจำนับตั้งแต่ฮ่าย (亥) ไปจนถึงซวี (戌) จุลยุคสามจุลยุค รวมกันเป็นหนึ่งยุค (古;กู่) ซึ่งมีได้ดังนี้
- ไท่กู่ (太古) หรือบรรพยุค ประกอบด้วยจุลยุคฮ่าย (亥) จื่อ (亥) และโฉ่ว (丑) ยุคนี้เป็นยุคโลกเกิด (天地之分;เทียนตี้จือเฟิน)
- ซ่างกู่ (上古) หรืออดีตยุค ประกอบด้วยจุลยุคอิ๋น (寅) เหม่า (卯) และเฉิน (辰) ยุคนี้เป็นยุคโลกโต (天地之化;เทียนตี้จือฮั่ว)
- จงกู่ (中古) หรือปัจจุบันยุค ประกอบด้วยจุลยุคสื้อ (巳) อู่ (午) และเว่ย (未) ยุคนี้เป็นยุคโลกโทรม (天地之关;เทียนตี้จือกวน)
- เซี่ยกู่ (下古) หรืออนาคตยุค ประกอบด้วยจุลยุคเซิน (申) โหย่ว (酉) และซวฺ (戌) ยุคนี้เป็นยุคโลกสิ้น (天地之合;เทียนตี้จือเหอ)
นอกจากนี้ หนึ่งจุลยุค แบ่งออกได้เป็น 30 รอบใหญ่ แต่ละรอบใหญ่มี 12 รอบน้อย รอบน้อยหนึ่งกินเวลา 30 ปี
ปฏิทินจันทรคติจีน
[แก้]เดือน
[แก้]ปฏิทินจันทรคติจีนเป็นปฏิทินจันทรคติอย่างที่ใช้กำหนดวันสำคัญต่าง ๆ ตามประเพณีจีน ในหนึ่งปีปฏิทินมีสิบสองเดือน แต่ละเดือนอาจมี 29 หรือ 30 วันแล้วแต่จังหวะของดวงจันทร์ที่โคจรรอบโลก ซึ่งเดือนที่มี 29 วัน เรียกว่า เดือนขาด (小月; พินอิน: xiǎo yuè; คำอ่าน: เสี่ยวเยวฺ่) ส่วนเดือนที่มี 30 วัน เรียกว่า เดือนเต็ม (大月; พินอิน: dàyuè; คำอ่าน: ต้าเยฺว่)[ม 1] การกำหนดว่าเดือนใดเป็นเดือนเต็มหรือขาด มักจะอาศัยผลการคำนวณวันจันทร์ดับทางดาราศาสตร์ที่ทำไว้ดีแล้ว โดยนับวันจันทร์ดับของเดือนหนึ่งเป็นดิถีที่หนึ่ง จนถึงวันก่อนวันจันทร์ดับถัดไป ซึ่งจะได้ 29 หรือ 30 วัน ตัวอย่างเช่น ปี พ.ศ. 2559 ขณะยังเป็นปีมะแม เดือน 12 วันจันทร์ดับกำหนดที่วันที่ 10 มกราคม เวลา 9:30 และวันที่ 8 กุมภาพันธ์ เวลา 22:39 จากนั้น ให้นับ 1 ที่วันที่ 10 มกราคม จนสุดที่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ได้ทั้งหมด 29 วัน ได้ว่าเดือนดังกล่าวเป็นเดือนขาด
ส่วนการกำหนดเลขเดือน จะต้องให้วันวสันตวิษุวัต อุตรายัน ศารทวิษุวัต และทักษิณายัน อยู่ภายในเดือนจันทรคติที่ 2, 5, 8 และ 11 ตามลำดับเสมอไป หากจำเป็น จะต้องเติมเดือนอธิกมาสลงในปฏิทินข้างต้น โดยถือว่าเดือนที่ไม่มีภาวะเลขคู่ (เช่น อวี๋สุ่ย ชุนเฟิน กู๋อวี่,..., ต้าหาน) เป็นเดือนอธิกมาส ใช้ลำดับเลขเหมือนของเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้เพื่อมิให้วันตรุษจีนต้องผิดไปจากเดิมมากนัก[15][16]
จากข้อมูลขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้กำหนดวันที่ซึ่งดวงจันทร์มีดิถีต่าง ๆ กัน[17][18] เราสามารถคำนวณว่า เดือนใดขาด เดือนใดเต็ม ได้ตามวิธีการข้างบน ดังตารางต่อไปนี้[19]
เดือน/ปี | วันและเวลาจันทร์ดับ (มาตรฐานประเทศจีน) | วันก่อนวันจันทร์ดับถัดไป | จำนวนวัน | ประเภทเดือน |
---|---|---|---|---|
11 | 18 ธันวาคม พ.ศ. 2560 14:31 | 16 มกราคม พ.ศ. 2561 | 30 | เต็ม |
12 | 17 มกราคม พ.ศ. 2561 10:18 | 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561[ม 4] | 30 | เต็ม |
1 ปีจอ | 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 05:05 | 16 มีนาคม พ.ศ. 2561 | 29 | ขาด |
2 | 17 มีนาคม พ.ศ. 2561 21:13 | 15 เมษายน พ.ศ. 2561 | 30 | เต็ม |
3 | 16 เมษายน พ.ศ. 2561 09:59 | 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 | 29 | ขาด |
4 | 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 19:48 | 13 มิถุนายน พ.ศ. 2561 | 30 | เต็ม |
5 | 14 มิถุนายน พ.ศ. 2561 03:43 | 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 | 29 | ขาด |
6 | 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 10:49 | 10 สิงหาคม พ.ศ. 2561 | 29 | ขาด |
7 | 11 สิงหาคม พ.ศ. 2561 17:59 | 9 กันยายน พ.ศ. 2561 | 30 | เต็ม |
8 | 10 กันยายน พ.ศ. 2561 02:02 | 8 ตุลาคม พ.ศ. 2561 | 29 | ขาด |
9 | 9 ตุลาคม พ.ศ. 2561 11:47 | 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 | 30 | เต็ม |
10 | 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 00:02 | 6 ธันวาคม พ.ศ. 2561 | 29 | ขาด |
11 | 7 ธันวาคม พ.ศ. 2561 15:22 | 5 มกราคม พ.ศ. 2562 | 30 | เต็ม |
12 | 6 มกราคม พ.ศ. 2562 09:30 | 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 | 30 | เต็ม |
1 ปีกุน | 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 05:04 | 6 มีนาคม พ.ศ. 2562 | 30 | เต็ม |
2 | 7 มีนาคม พ.ศ. 2562 00:04 | 4 เมษายน พ.ศ. 2562 | 29 | ขาด |
3 | 5 เมษายน พ.ศ. 2562 16:51 | 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 | 30 | เต็ม |
4 | 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 06:46 | 2 มิถุนายน พ.ศ. 2562 | 29 | ขาด |
5 | 3 มิถุนายน พ.ศ. 2562 18:02 | 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 | 30 | เต็ม |
6 | 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 03:17 | 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 | 29 | ขาด |
7 | 1 สิงหาคม พ.ศ. 2562 11:12 | 29 สิงหาคม พ.ศ. 2562 | 29 | ขาด |
8 | 30 สิงหาคม พ.ศ. 2562 18:38 | 28 กันยายน พ.ศ. 2562 | 30 | เต็ม |
9 | 29 กันยายน พ.ศ. 2562 02:27 | 27 ตุลาคม พ.ศ. 2562 | 29 | ขาด |
10 | 28 ตุลาคม พ.ศ. 2562 11:39 | 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 | 29 | ขาด |
11 | 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 23:06 | 25 ธันวาคม พ.ศ. 2562 | 30 | เต็ม |
12 | 26 ธันวาคม พ.ศ. 2562 13:14 | 24 มกราคม พ.ศ. 2563 | 30 | เต็ม |
1 ปีชวด | 25 มกราคม พ.ศ. 2563 05:42 | 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 | 29 | ขาด |
2 | 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 23:33 | 23 มีนาคม พ.ศ. 2563 | 30 | เต็ม |
3 | 24 มีนาคม พ.ศ. 2563 17:29 | 22 เมษายน พ.ศ. 2563 | 30 | เต็ม |
4 | 23 เมษายน พ.ศ. 2563 10:26 | 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 | 30 | เต็ม |
4/4 | 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 01:39 | 20 มิถุนายน พ.ศ. 2563 | 29 | ขาด |
5 | 21 มิถุนายน พ.ศ. 2563 14:42 | 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 | 30 | เต็ม |
6 | 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 01:34 | 18 สิงหาคม พ.ศ. 2563 | 29 | ขาด |
7 | 19 สิงหาคม พ.ศ. 2563 10:42 | 16 กันยายน พ.ศ. 2563 | 29 | ขาด |
8 | 17 กันยายน พ.ศ. 2563 19:00 | 16 ตุลาคม พ.ศ. 2563 | 30 | เต็ม |
9 | 17 ตุลาคม พ.ศ. 2563 03:31 | 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 | 29 | ขาด |
10 | 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 13:09 | 14 ธันวาคม พ.ศ. 2563 | 30 | เต็ม |
11 | 15 ธันวาคม พ.ศ. 2563 00:18 | 12 มกราคม พ.ศ. 2564 | 29 | ขาด |
12 | 13 มกราคม พ.ศ. 2564 13:00 | 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 | 30 | เต็ม |
1 ปีฉลู | 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 03:05 | 12 มีนาคม พ.ศ. 2564 | 29 | ขาด |
2 | 13 มีนาคม พ.ศ. 2564 18:22 | 11 เมษายน พ.ศ. 2564 | 30 | เต็ม |
3 | 12 เมษายน พ.ศ. 2564 10:33 | 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 | 30 | เต็ม |
4 | 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 03:00 | 9 มิถุนายน พ.ศ. 2564 | 29 | ขาด |
5 | 10 มิถุนายน พ.ศ. 2564 18:52 | 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 | 30 | เต็ม |
6 | 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 09:17 | 7 สิงหาคม พ.ศ. 2564 | 29 | ขาด |
7 | 8 สิงหาคม พ.ศ. 2564 21:52 | 6 กันยายน พ.ศ. 2564 | 30 | เต็ม |
8 | 7 กันยายน พ.ศ. 2564 08:53 | 5 ตุลาคม พ.ศ. 2564 | 29 | ขาด |
9 | 6 ตุลาคม พ.ศ. 2564 19:05 | 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 | 30 | เต็ม |
10 | 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 05:15 | 3 ธันวาคม พ.ศ. 2564 | 29 | ขาด |
11 | 4 ธันวาคม พ.ศ. 2564 15:44 | 2 มกราคม พ.ศ. 2565 | 30 | เต็ม |
12 | 3 มกราคม พ.ศ. 2565 02:35 | 31 มกราคม พ.ศ. 2565 | 29 | ขาด |
1 ปีขาล | 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 13:46 | 2 มีนาคม พ.ศ. 2565 | 30 | เต็ม |
2 | 3 มีนาคม พ.ศ. 2565 01:35 | 31 มีนาคม พ.ศ. 2565 | 29 | ขาด |
3 | 1 เมษายน พ.ศ. 2565 14:25 | 30 เมษายน พ.ศ. 2565 | 30 | เต็ม |
4 | 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 04:29 | 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 | 29 | ขาด |
5 | 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 19:31 | 28 มิถุนายน พ.ศ. 2565 | 30 | เต็ม |
6 | 29 มิถุนายน พ.ศ. 2565 10:53 | 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 | 30 | เต็ม |
7 | 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 01:55 | 26 สิงหาคม พ.ศ. 2565 | 29 | ขาด |
8 | 27 สิงหาคม พ.ศ. 2565 16:18 | 25 กันยายน พ.ศ. 2565 | 30 | เต็ม |
9 | 26 กันยายน พ.ศ. 2565 05:55 | 24 ตุลาคม พ.ศ. 2565 | 29 | ขาด |
10 | 25 ตุลาคม พ.ศ. 2565 18:49 | 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 | 30 | เต็ม |
11 | 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 06:58 | 22 ธันวาคม พ.ศ. 2565 | 29 | ขาด |
12 | 23 ธันวาคม พ.ศ. 2565 18:17 | 21 มกราคม พ.ศ. 2566 | 30 | เต็ม |
1 ปีเถาะ | 22 มกราคม พ.ศ. 2566 04:53 | 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 | 29 | ขาด |
2 | 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 15:07 | 21 มีนาคม พ.ศ. 2566 | 30 | เต็ม |
2/2 | 22 มีนาคม พ.ศ. 2566 01:24 | 19 เมษายน พ.ศ. 2566 | 29 | ขาด |
3 | 20 เมษายน พ.ศ. 2566 12:13 | 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 | 29 | ขาด |
4 | 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 23:53 | 17 มิถุนายน พ.ศ. 2566 | 30 | เต็ม |
5 | 18 มิถุนายน พ.ศ. 2566 12:38 | 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 | 30 | เต็ม |
6 | 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 02:33 | 15 สิงหาคม พ.ศ. 2566 | 29 | ขาด |
7 | 16 สิงหาคม พ.ศ. 2566 17:39 | 14 กันยายน พ.ศ. 2566 | 30 | เต็ม |
8 | 15 กันยายน พ.ศ. 2566 09:40 | 14 ตุลาคม พ.ศ. 2566 | 30 | เต็ม |
9 | 15 ตุลาคม พ.ศ. 2566 01:55 | 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 | 29 | ขาด |
10 | 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 17:29 | 12 ธันวาคม พ.ศ. 2566 | 30 | เต็ม |
11 | 13 ธันวาคม พ.ศ. 2566 07:34 | 10 มกราคม พ.ศ. 2567 | 29 | ขาด |
12 | 11 มกราคม พ.ศ. 2567 19:58 | 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 | 30 | เต็ม |
1 ปีมะโรง | 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 06:59 | 9 มีนาคม พ.ศ. 2567 | 29 | ขาด |
2 | 10 มีนาคม พ.ศ. 2567 17:01 | 8 เมษายน พ.ศ. 2567 | 30 | เต็ม |
3 | 9 เมษายน พ.ศ. 2567 02:23 | 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 | 29 | ขาด |
4 | 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 11:23 | 5 มิถุนายน พ.ศ. 2567 | 29 | ขาด |
5 | 6 มิถุนายน พ.ศ. 2567 20:37 | 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 | 30 | เต็ม |
6 | 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 06:58 | 3 สิงหาคม พ.ศ. 2567 | 29 | ขาด |
7 | 4 สิงหาคม พ.ศ. 2567 19:15 | 2 กันยายน พ.ศ. 2567 | 30 | เต็ม |
8 | 3 กันยายน พ.ศ. 2567 09:57 | 2 ตุลาคม พ.ศ. 2567 | 30 | เต็ม |
9 | 3 ตุลาคม พ.ศ. 2567 02:49 | 31 ตุลาคม พ.ศ. 2567 | 29 | ขาด |
10 | 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 20:47 | 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 | 30 | เต็ม |
11 | 1 ธันวาคม พ.ศ. 2567 14:23 | 30 ธันวาคม พ.ศ. 2567 | 30 | เต็ม |
12 | 31 ธันวาคม พ.ศ. 2567 06:28 | 28 มกราคม พ.ศ. 2568 | 29 | ขาด |
1 ปีมะเส็ง | 29 มกราคม พ.ศ. 2568 20:36 | 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 | 30 | เต็ม |
2 | 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 08:45 | 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 | 29 | ขาด |
3 | 29 มีนาคม พ.ศ. 2568 18:58 | 27 เมษายน พ.ศ. 2568 | 30 | เต็ม |
4 | 28 เมษายน พ.ศ. 2568 03:32 | 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 | 29 | ขาด |
5 | 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 11:03 | 24 มิถุนายน พ.ศ. 2568 | 29 | ขาด |
6 | 25 มิถุนายน พ.ศ. 2568 18:32 | 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 | 30 | เต็ม |
6/6 | 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 03:12 | 22 สิงหาคม พ.ศ. 2568 | 29 | ขาด |
7 | 23 สิงหาคม พ.ศ. 2568 14:07 | 21 กันยายน พ.ศ. 2568 | 30 | เต็ม |
8 | 22 กันยายน พ.ศ. 2568 03:55 | 20 ตุลาคม พ.ศ. 2568 | 29 | ขาด |
9 | 21 ตุลาคม พ.ศ. 2568 20:26 | 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 | 30 | เต็ม |
10 | 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 14:48 | 19 ธันวาคม พ.ศ. 2568 | 30 | เต็ม |
11 | 20 ธันวาคม พ.ศ. 2568 09:44 | 18 มกราคม พ.ศ. 2569 | 30 | เต็ม |
12 | 19 มกราคม พ.ศ. 2569 03:52 | 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2569 | 29 | ขาด |
1 ปีมะเมีย | 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2569 20:02 | 18 มีนาคม พ.ศ. 2569 | 30 | เต็ม |
2 | 19 มีนาคม พ.ศ. 2569 09:25 | 16 เมษายน พ.ศ. 2569 | 29 | ขาด |
3 | 17 เมษายน พ.ศ. 2569 19:53 | 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2569 | 30 | เต็ม |
4 | 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2569 04:01 | 14 มิถุนายน พ.ศ. 2569 | 29 | ขาด |
5 | 15 มิถุนายน พ.ศ. 2569 10:54 | 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2569 | 29 | ขาด |
6 | 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2569 17:45 | 12 สิงหาคม พ.ศ. 2569 | 30 | เต็ม |
7 | 13 สิงหาคม พ.ศ. 2569 01:38 | 10 กันยายน พ.ศ. 2569 | 29 | ขาด |
8 | 11 กันยายน พ.ศ. 2569 11:27 | 9 ตุลาคม พ.ศ. 2569 | 29 | ขาด |
9 | 10 ตุลาคม พ.ศ. 2569 23:50 | 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2569 | 30 | เต็ม |
10 | 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2569 15:03 | 8 ธันวาคม พ.ศ. 2569 | 30 | เต็ม |
11 | 9 ธันวาคม พ.ศ. 2569 08:54 | 7 มกราคม พ.ศ. 2570 | 30 | เต็ม |
12 | 8 มกราคม พ.ศ. 2570 04:25 | 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2570 | 29 | ขาด |
1 ปีมะแม | 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2570 23:56 | 7 มีนาคม พ.ศ. 2570 | 30 | เต็ม |
2 | 8 มีนาคม พ.ศ. 2570 17:30 | 6 เมษายน พ.ศ. 2570 | 30 | เต็ม |
3 | 7 เมษายน พ.ศ. 2570 07:53 | 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2570 | 29 | ขาด |
4 | 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2570 19:00 | 4 มิถุนายน พ.ศ. 2570 | 30 | เต็ม |
5 | 5 มิถุนายน พ.ศ. 2570 03:40 | 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2570 | 29 | ขาด |
6 | 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2570 11:02 | 1 สิงหาคม พ.ศ. 2570 | 29 | ขาด |
7 | 2 สิงหาคม พ.ศ. 2570 18:07 | 31 สิงหาคม พ.ศ. 2570 | 30 | เต็ม |
8 | 1 กันยายน พ.ศ. 2570 01:42 | 29 กันยายน พ.ศ. 2570 | 29 | ขาด |
9 | 30 กันยายน พ.ศ. 2570 10:36 | 28 ตุลาคม พ.ศ. 2570 | 29 | ขาด |
10 | 29 ตุลาคม พ.ศ. 2570 21:36 | 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2570 | 30 | เต็ม |
11 | 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2570 11:25 | 27 ธันวาคม พ.ศ. 2570 | 30 | เต็ม |
12 | 28 ธันวาคม พ.ศ. 2570 04:14 | 25 มกราคม พ.ศ. 2571 | 29 | ขาด |
1 ปีวอก | 26 มกราคม พ.ศ. 2571 23:13 | 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2571 | 30 | เต็ม |
ระวัง เวลาที่แสดงในข้อมูลต้นฉบับเป็นเวลาสากลเชิงพิกัด ดังนั้นจะต้องแปลงเป็นเวลามาตรฐานประเทศจีนเสียก่อน โดยเอา 8 บวกชั่วโมง แล้วจึงคำนวณ
เมื่อทราบความยาวแต่ละเดือนแล้ว ก็เรียงดิถีตั้งแต่ 1 ถึง 29 หรือ 30 (คล้ายดิถีตลาดในปฏิทินไทย) ตั้งแต่วันจันทร์ดับไปถึงวันก่อนวันจันทร์ดับถัดไป ในปฏิทินจีน วันต้นเดือนมักจะระบุว่าเดือนใดขาดหรือเต็ม เช่น เดือน 2 ปีมะแม จากตารางเป็นเดือนขาด ก็เขียน 二小月 ที่วันต้นเดือนเป็นต้น ในเดือนดังกล่าว ก็ให้กำหนดวันที่ 1 เป็นวันที่ 9 มีนาคม นับไปจนถึงวันที่ 6 เมษายน เป็นวันที่ 29 วันต่อจากนั้นก็ขึ้นเดือน 3 ทำซ้ำเช่นนี้จนครบปฏิทินตามความต้องการ
จากตารางจะสังเกตได้ว่า ปี พ.ศ. 2560 มีเดือนหกสองครั้ง[15] จึงถือเป็นปีอธิกมาสตามแบบจีน นอกจากนี้ยังถือได้ว่า ปี พ.ศ. 2563, 2566 และ 2568 เป็นปีอธิกมาสอีกด้วย ทั้งนี้ ปีอธิกมาสตามแบบจีน อาจจะเป็นปีปกติมาสหรืออธิกมาสตามแบบไทยก็ได้ เนื่องจากวิธีการคำนวณไม่เหมือนกัน
ชื่อเดือน
[แก้]ชื่อเดือนในปฏิทินจันทรคติจีน คล้ายกับที่ใช้ในปฏิทินสุริยคติ แต่ต่างกันที่เดือนแรกและเดือนสุดท้าย ซึ่งใช้ชื่อ 正月 (เจิงเยฺว่) และ 腊月 (ล่าเยฺว่) ตามลำดับ
ดิถี
[แก้]ในแต่ละเดือน จะมีส่วนย่อยเป็นดิถี หรือวันจันทรคติ นับตั้งแต่หนึ่งไปจนถึงวันสิ้นเดือน วันที่ในปฏิทินจีน เรียงลำดับจากวันที่หนึ่ง ไปจนถึงวันที่สามสิบ ได้ดังนี้[ม 5]
วันที่ | หนึ่ง | สอง | สาม | สี่ | ห้า | หก | เจ็ด | แปด | เก้า | สิบ | สิบเอ็ด | สิบสอง | สิบสาม | สิบสี่ | สิบห้า |
อักษรจีน | 初一 | 初二 | 初三 | 初四 | 初五 | 初六 | 初七 | 初八 | 初九 | 初十 | 十一 | 十二 | 十三 | 十四 | 十五 |
คำอ่าน | ชูอี (Chūyī) | ชูเอ้อร์ (Chūèr) | ชูซาน (Chūsān) | ชูสื้อ (Chūsì) | ชูอู่ (Chūwǔ) | ชูลิ่ว (Chūlìu) | ชูชี (Chūqī) | ชูปา (Chūbā) | ชูจิ่ว (Chūjǐu) | ชูสือ (Chūshí) | สืออี (Shíyī) | สือเอ้อร์ (Shíèr) | สือซาน (Shísān) | สือสื้อ (Shísì) | สืออู่ (Shíwǔ) |
วันที่ | สิบหก | สิบเจ็ด | สิบแปด | สิบเก้า | ยี่สิบ | ยี่สิบเอ็ด | ยี่สิบสอง | ยี่สิบสาม | ยี่สิบสี่ | ยี่สิบห้า | ยี่สิบหก | ยี่สิบเจ็ด | ยี่สิบแปด | ยี่สิบเก้า | สามสิบ |
อักษรจีน | 十六 | 十七 | 十八 | 十九 | 二十 | 廿一 | 廿二 | 廿三 | 廿四 | 廿五 | 廿六 | 廿七 | 廿八 | 廿九 | 三十 |
คำอ่าน | สือลิ่ว (Shílìu) | สือชี (Shíqī) | สือปา (Shíbā) | สือจิ่ว (Shíjǐu) | เอ้อร์สือ (Èrshí) | เนี่ยนอี (Niànyī) | เนี่ยนเอ้อร์ (Niànèr) | เนี่ยนซาน (Niànsān) | เนี่ยนสื้อ (Niànsì) | เนี่ยนอู่ (Niànwǔ) | เนี่ยนลิ่ว (Niànlìu) | เนี่ยนชี (Niànqī) | เนี่ยนปา (Niànbā) | เนี่ยนจิ่ว (Niànjǐu) | ซานสือ (Sānshí) |
โดยกำหนดให้วันที่หนึ่ง ของเดือนเจิง หรือเดือนอ้ายจีน เป็นวันตรุษจีน อนึ่ง การนับดิถีแบบจีนจะยึดเป็นวัน ๆ ไป โดยมิได้คำนึงถึงวันทางจันทรคติแท้จริง ซึ่งการนับลักษณะนี้คล้ายกับดิถีตลาดในปฏิทินไทย
ดูเพิ่ม
[แก้]หมายเหตุ
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 เครื่องหมายพินทุจุด มีไว้เพื่อแสดงการควบเสียง อนึ่งคำ 月 (เดือน, พระจันทร์, รากศัพท์ของศัพท์หมวดเนื้อและอวัยวะ) ออกเสียง ยู - เอ้ อย่างเร็วจนเป็นพยางค์เดียว หรือ เย่ แต่ห่อปาก
- ↑ สารท/ศารท หมายถึง ฤดูใบไม้ร่วง และงานฉลองในฤดูใบไม้ร่วง ส่วน ภวะ แปลว่า ความเป็นไป
- ↑ 3.0 3.1 3.2 3.3 3.4 3.5 เสียงวรรณยุกต์ที่สาม (เทียบเท่าเสียงเอก) ติดกัน เปลี่ยนเสียงต้นเป็นเสียงวรรณยุกต์ที่สอง (เทียบเท่าเสียงจัตวา) เพื่อให้ออกเสียงง่ายขึ้น
- ↑ ตามปฏิทินดาราศาสตร์สากลขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติฯ (และที่คำนวณตามสูตรของ Jean Meeus ใน Astronomical Algorithm) วันจันทร์ดับตรงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เวลา 05:06 น. จะทำให้ได้ว่าเดือนนี้มี 31 วัน ซึ่งไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ จำต้องตัดเหลือ 30 วันแล้วเดินปฏิทินไปตามปกติ
- ↑ เลขหนึ่งจีน 一 เมื่ออยู่โดด ๆ ออกเสียง อี/ยี แต่เมื่อประกอบเป็นคำ มักออกเสียง อี้/ยี่ ยกเว้นต่อท้ายด้วยเสียงวรรณยุกต์ที่สี่ (‘) จึงจะออกเสียง อี๋/หยี
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 Deng, Yingke. (2005). Ancient Chinese Inventions. Translated by Wang Pingxing. Beijing: China Intercontinental Press (五洲传播出版社). ISBN 7-5085-0837-8. Page 67.
- ↑ Cullen, Atronomy and Methematics in Ancient China. Cambridge, 1996.
- ↑ Needham, Joseph. (1986). Science and Civilization in China: Volume 5, Chemistry and Chemical Technology, Part 6, Missiles and Sieges. Cambridge University Press., reprinted Taipei: Caves Books, Ltd.(1986). Page 151.
- ↑ Ebrey, Patricia Buckley (1999). The Cambridge Illustrated History of China. Cambridge: Cambridge University Press. ISBN 0-521-66991-X (paperback). Pages 124-125.
- ↑ ตั้งกวงจือ. ตำราเรียนหัวใจฮวงจุ้ย. กรุงเทพฯ:ฮวงจุ้ยกับชีวิต, 2549
- ↑ โปรดดูเพิ่มเติมที่ [1] เก็บถาวร 2009-04-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ Asiapac Editorial. (2004). Origins of Chinese Science and Technology. Translated by Yang Liping and Y.N. Han. Singapore: Asiapac Books Pte. Ltd. ISBN 981-229-376-0, p. 132.
- ↑ Needham, Joseph. (1959). Science and Civilization in China: Volume 3, Mathematics and the Sciences of the Heavens and the Earth. Cambridge University Press., reprinted Taipei: Caves Books, Ltd.(1986), pp. 109–110.
- ↑ Ho, Peng Yoke. (2000). Li, Qi, and Shu: An Introduction to Science and Civilization in China. Mineola: Dover Publications. ISBN 0-486-41445-0. p. 105.
- ↑ Restivo, Sal. (1992). Mathematics in Society and History: Sociological Inquiries. Dordrecht: Kluwer Academic Publishers. ISBN 1-4020-0039-1. p. 32.
- ↑ Days of the Week in Chinese: Three Different Words for "Week"
- ↑ Chinese-Word.com. 12 months เก็บถาวร 2015-03-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ Christopher Warnock, Esq. Tropical, Sidereal & Constellational Zodiacs: The Power of World View เผยแพร่ที่ http://www.renaissanceastrology.com วันที่ค้นข้อมูล 23 ธันวาคม 2557
- ↑ Aslaksen, p. 38.
- ↑ 15.0 15.1 "ปฏิทินจีน พ.ศ. 2445 - 2643 Gregorian-Lunar Calendar Conversion Table 1901-2100". Hong Kong Observatory. 20 Dec 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-11-03. สืบค้นเมื่อ 19 Feb 2015.
- ↑ "The Essence of the Chinese Calendar". chinesefortunecalendar.com. สืบค้นเมื่อ 19 Feb 2015.
- ↑ NASA. SKYCAL - SKY EVENTS CALENDAR
- ↑ "Lunar calendar for 2018 year". lunaf.com.
- ↑ ผลการคำนวณตรวจสอบแล้วบางส่วน จาก chinesenewyear.info วันที่ 1 เดือน 1 ตามปฏิทินจันทรคติจีนของทุกปี ต้องเป็นวันตรุษจีนเสมอไป
ดูเพิ่ม
[แก้]- Cohen, Alvin (2012). "Brief Note: The Origin of the Yellow Emperor Era Chronology" (PDF). Asia Major. 25 (pt 2): 1–13. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 1 August 2020. สืบค้นเมื่อ 25 September 2014.
- Ho, Kai-Lung (何啟龍) (2006). "The Political Power and the Mongolian Translation of the Chinese Calendar During the Yuan Dynasty". Central Asiatic Journal 50 (1). Harrassowitz Verlag: 57–69. The Political Power and the Mongolian Translation of the Chinese Calendar During the Yuan Dynasty.