กาลไภรวมนเทียร (อุชเชน)
กาลไภรวมนเทียร | |
---|---|
काल भैरव मन्दिर | |
ศาสนา | |
ศาสนา | ศาสนาฮินดู |
เขต | อุชเชน |
เทพ | กาลไภรวะ |
ที่ตั้ง | |
ที่ตั้ง | ไภรวครห์ อุชเชน |
รัฐ | รัฐมัธยประเทศ |
ประเทศ | อินเดีย |
พิกัดภูมิศาสตร์ | 23°13′05″N 75°46′07″E / 23.218174°N 75.768618°E |
ระดับความสูง | 481 m (1,578 ft) |
กาลไภรวมนเทียร เป็นมนเทียรในนครอุชเชน รัฐมัธยประเทศ ประเทศอินเดีย สร้างขึ้นบูชาพระกาลไภรวะ เทพารักษ์ของนครอุชเชน[1] มนเทียรตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำศิปรา และเป็นหนึ่งในมนเทียรที่มีผู้เดินทางมามากที่สุดในนครด้วยจำนวนยอดเข้าชมหลายร้อยคนต่อวัน[2] มนเทียรนี้มีความพิเศษที่ธรรมเนียมการถวายสุราแก่เทพเจ้าองค์ประธานของมนเทียร[3]
ประวัติศาสตร์
[แก้]มนเทียรหลังปัจจุบันสร้างขึ้นบนซากของมนเทียรเก่าของเดิมซึ่งเชื่อว่าสร้างขึ้นโดยกษัตริย์นามว่า ภัทรเสน (Bhadrasen) ปรากฏกาากล่าวถึงมนเทียรนี้ใน อวันติขัณฑะ (Avanti Khanda) ในคัมภีร์ สกันทปุราณะ[4][2] มีการค้นพบมูรติพระศิวะ, พระปารวตี, พระวิษณุ และพระคเณศ จาสมัยปรมระ (ศตวรรษที่ 9-13) ในมนเทียร[5] ผนังภายในยังเคยประดับด้วยจิตรกรรมมัลวะซึ่งเลือนหายไปตามกาลเวลา[4]
สถาปัตยกรรมของมนเทียรหลังปัจจุบันแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลมราฐา ตามมุขปาฐะท้องถิ่นบอกเล่าว่าเมื่อครั้นมราฐาพ่ายในสงครามที่ปานีปัฏครั้งที่สาม (ค.ศ. 1761) นายพลมราฐา มหัทจี ศินเฑ ถวายปครี (ผ้าโพกศีรษะ) ของตนแก่เทพเจ้า และสวดขอให้มีชัยชนะเพื่อฟื้นฟูมราฐาในอินเดียเหนือ หลังเขาประสบความสำเร็จได้ตามที่ขอ เขาจึงกลับมาบูรณะมนเทียรนี้[6]
เทพเจ้าองค์ประธาน
[แก้]ตามชื่อ มนเทียรนี้มีพระกาลไภรวะ (หรือ พระกาลไภรพ) เป็นเทพเจ้าองค์ประธาน มูรติของพระกาลไภรวะในมนเทียรมีลักษณะเป็นใบหน้าในก้อนหินที่ประดับด้วยชั้นของผงกุงกุมะและสินทูร เศียรของเทพเจ้าทำมาจากโลหะเงิน ประดับด้วยผ้าโพกศีรษะแบบมราฐา ตามธรรมเนียมบอกเล่าถึงที่มาของมนเทียรหลังปัจจุบัน[6]
ธรรมเนียมการบูชาอัษฏไภรวะ ("พระไภรวะแปดพระองค์") เป็นส่วนหนึ่งของธรรมเนียมไศวนิกาย พระกาลไภรวะถือเป็นเทพเจ้าอวค์ประธานในแปดองค์นี้ ธรรมเนียมการบูชาพระกาลไภรวะในอดีตเป็นที่นิยมเป็นพิเศษในสำนักกปาลิกา และ อโฆระ นครอุชเชนเป็นศูนย์กลางของทั้งสองสำนักนี้[4]
พระกาลไภรวะได้รัขการนับถือเป็นเทพารักษ์ของนครอุชเชน[1] และถือเป็นองค์เสนาบดีประจำนคร[7]
การถวายสุรา
[แก้]มนเทียรนี้มีธรรมเนียมการถวายสุราแด่พระกาลไภรวะ ในฐานะหนึ่งในห้าเครื่องถวายบูชาเชิงตันตระ หรือ ปัญจมการ อันประกอบด้วย มทยะ (สุรา), มางสะ (เนื้อ), มีนะ หรือ มัสยะ (ปลา), มุทรา (ธัญญาหาร) และ มิถุนะ (เพศสสัมพันธ์) ในอดีต เครื่องบูชาทั้งห้าประการข้าวต้นจะประกอบถวายแด่พระองค์ แต่ในปัจจุบันมีเพียงสุราเท่านั้นที่ยังคงถวายให้ อีกสี่เครื่องบูชานั้นถวายในรูปพิธีกรรมเชิงสัญลักษณ์แทน[3]
ร้านค้าด้านนอกของมนเทียรมีจำหน่ายตะกร้าของบูชาต่าง ๆ ซึ่งประกอบด้วยมะพร้าว ดอกไม้ และสุราหนึ่งขวด[8] ในปี 2015 รัฐบาลรัฐมัธยประเทศเปิดร้านขายสุราด้านนอกมนเทียรเพื่อยืนยันว่าสาธุชนที่เดินทางมาจะไม่ต้องเผชิญปัญหาคนค้าสุราที่ไม่มีใบอนุญาต ร่านดังกล่าวขายทั้งสุราพื้นบ้าน และ สุราแบบฝรั่ง[9]
ทุก ๆ วันมีสาธุชนนำสุรามาถวายแก่เทพเจ้าหลายร้อยคน[2] โดยจะยื่นสุราในขวดแก่นักบวชซึ่งจะนำสุรานั้นเทลงในชามตื้น จากนั้นจึงประกอบพิธีสวดถวายเครื่องบูชา นำชามที่ใส่สุราสัมผัสกับปากของเทพเจ้าซึ่งมีรอยเป็นแถบ (slit) อยู่ จากนั้นจะเอียงชามเล็กน้อย สุราในชามก็จะไหลหายไป[3] สุราจะเหลือคืนกลับไปประมาณหนึ่งในสามของขวด ซึ่งจะนำกลับไปรับประทานต่อในฐานะประสาทัม[8]
นักบวชของมนเทียรและสาธุชนหลายคนเชื่อว่าด้านหลังรอยเป็นแถบที่ปากของเทพเจ้าไม่มีโพรงอยู่ข้างหลัง การที่สุราหายวับไปเมื่อเอียงชามนั้นคือการที่เทพเจ้าทรงดื่มสุราที่ถวายอย่างอัศจรรย์ กระนั้น มนเทียรไม่อนุญาตให้บุคคลใดก็ตาทำการตรวจสอบเทวรูป รวมถึงยังกล่าวอ้างว่าเฉพาะนักบวชของมนเทียรเท่านั้นที่สามารถกระทำการอัศจรรย์นี้ได้ บุคคลภายนอกหากมาทำการถวายสุราเช่นนี้จะไม่สามารถทำให้เทวรูป "กลืนสุรา" ได้แบบที่นักบวชทำ[3]
มีการคาดการณ์จำนวนสุราที่ถวายแด่เทพเจ้าอยู่ที่หลายร้อยลิตรต่อวัน กระนั้นทางมนเทียรไม่ได้มีการเผยแพร่จำนวนที่แน่ชัด[10] ในปี 2016 ระหว่างช่วงอุชไชนสิงหัสถะ รัฐบาลของรัฐสั่งห้ามการขายสุราในนครอุชเชนทั้งเดือน ยกเว้นเพียงร้านขาด้านหน้ามนเทียรนี้ที่จำหน่ายได้[11]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 V Guhan (24 February 2013). "Where Lord Shiva is guardian and ruler". Indian Express. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 March 2016. สืบค้นเมื่อ 29 September 2015.
- ↑ 2.0 2.1 2.2 "Ujjain's Kalbhairav, the god to whom Hindu devotees offer liquor". India TV. 20 February 2013.
- ↑ 3.0 3.1 3.2 3.3 N.K. Singh (31 July 1994). "One for the lord". India Today.
- ↑ 4.0 4.1 4.2 "Temples". District Collector, Ujjain. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 September 2015. สืบค้นเมื่อ 28 September 2015.
- ↑ "Holy City – Ujjain". Kalidasa Akademi. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 March 2016. สืบค้นเมื่อ 28 September 2015.
- ↑ 6.0 6.1 "ग्रहों की बाधाएं दूर करते है उज्जैन के कालभैरव" (ภาษาHindi). Aaj Tak. 17 January 2015.
{{cite news}}
: CS1 maint: unrecognized language (ลิงก์) - ↑ Diana L. Eck (2013). India: A Sacred Geography. Three Rivers Press. p. 238. ISBN 9780385531924.
- ↑ 8.0 8.1 Nilanjana Sengupta (12 November 2006). "When gods accept whisky". The Times of India.
- ↑ Milind Ghatwai (1 February 2015). "Ujjain: Nod to liquor outlets near Kal Bhairav temple". Indian Express.
- ↑ Sunil Magariya (1 February 2015). "MP: Ujjain Kal Bhairav temple to get dedicated liquor counters". Hindustan Times.
- ↑ Vinit and Ritesh Mishra (24 April 2016). "Liquor banned in Ujjain, but sales surge at Bhairav temple". Hindustan Times.