ข้อมูลด้านความปลอดภัยที่สำคัญเกี่ยวกับ Apple Watch

การดูแล โปรดถือ Apple Watch ด้วยความระมัดระวัง ตัวเรือนของ Apple Watch ผลิตจากวัสดุหลายชนิด ได้แก่:

• ตัวเรือน Apple Watch แบบอะลูมิเนียม ประกอบด้วยอะลูมิเนียมซีรีส์ 7000, กระจก Ion-X (กระจกเสริมความแข็งแรง), ด้านหลังเป็นคอมโพสิต (พลาสติก)

• ตัวเรือน Apple Watch แบบสแตนเลสสตีล ประกอบด้วยสแตนเลสสตีล ผลึกแซฟไฟร์ ด้านหลังเป็นเซรามิก

• ตัวเรือน Apple Watch แบบไทเทเนียม ประกอบด้วยไทเทเนียม ผลึกแซฟไฟร์ ด้านหลังเป็นเซรามิก

• ตัวเรือน Apple Watch แบบเซรามิก ประกอบด้วยเซรามิก ผลึกแซฟไฟร์ ด้านหลังเป็นเซรามิก

Apple Watch มีส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ที่ละเอียดอ่อนและอาจเสียหายได้ถ้าตกหล่น ถูกความร้อนสูง ถูกเจาะกระแทก หรือถูกบดทับ ตัวเรือน Apple Watch ที่ทำจากเซรามิกอาจกระเทาะหรือแตกถ้าตกหล่นหรือได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรง อย่าใช้ Apple Watch ที่ได้รับความเสียหาย เช่น เรือนหรือหน้าจอแตก เห็นได้ว่ามีของเหลวเข้า หรือสายมีความเสียหาย เนื่องจากอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ โปรดหลีกเลี่ยงไม่ให้สัมผัสกับฝุ่นหรือทรายปริมาณมาก

การซ่อมแซม อย่าแกะเปิด Apple Watch และอย่าพยายามซ่อมแซม Apple Watch ด้วยตัวเอง การแยกชิ้นส่วน Apple Watch อาจทำให้เกิดความเสียหาย ส่งผลให้สูญเสียความสามารถในการกันน้ำ และอาจทำให้คุณบาดเจ็บได้ ถ้า Apple Watch เสียหายหรือทำงานผิดปกติ ให้ติดต่อ Apple หรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตจาก Apple คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้ารับบริการได้ที่ support.apple.com/watch/repair/service

แบตเตอรี่ อย่าพยายามเปลี่ยนแบตเตอรี่ของ Apple Watch ด้วยตัวเอง เพราะคุณอาจทำให้แบตเตอรี่เสียหาย ซึ่งอาจเป็นเหตุให้แบตเตอรี่ร้อนเกินไปและเกิดการบาดเจ็บได้ ควรนำแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนบน Apple Watch เข้ารับบริการจาก Apple หรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น คุณอาจได้รับการเปลี่ยน Apple Watch ใหม่ (แทนเรือนเดิมของคุณ) เมื่อเข้ารับบริการเกี่ยวกับแบตเตอรี่ แบตเตอรี่ต้องนำมารีไซเคิลหรือกำจัดแยกจากขยะในครัวเรือน ห้ามเผาแบตเตอรี่ สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการบริการและการรีไซเคิลแบตเตอรี่ ให้ดูที่ apple.com/th/batteries/service-and-recycling

สิ่งรบกวนสมาธิ การใช้ Apple Watch ในสภาพแวดล้อมบางอย่างอาจรบกวนสมาธิของคุณและอาจก่อให้เกิดสถานการณ์ที่เป็นอันตรายได้ (ตัวอย่างเช่น หลีกเลี่ยงการอ่านข้อความตัวอักษรในขณะขับรถ) สังเกตกฎที่ห้ามหรือจำกัดการใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่

การนำทาง แผนที่ เส้นทาง และแอพที่อิงกับตำแหน่งที่ตั้งจำเป็นต้องใช้บริการข้อมูล บริการให้ข้อมูลเหล่านี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ และอาจไม่สามารถใช้งานได้ในพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งส่งผลให้แผนที่ เส้นทาง หรือข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งอาจไม่มีให้บริการ ไม่ถูกต้อง หรือไม่สมบูรณ์ คุณสมบัติแผนที่บางอย่างต้องใช้ บริการหาตำแหน่งที่ตั้ง เปรียบเทียบข้อมูลที่ Apple Watch มอบให้กับสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวคุณแล้วยึดตามป้ายสัญลักษณ์เป็นหลักถ้าไม่ตรงกับข้อมูลที่มอบให้ อย่าใช้บริการเหล่านี้ขณะปฏิบัติกิจกรรมที่ต้องการสมาธิสูง โปรดปฏิบัติตามป้ายสัญลักษณ์และกฎหมายและข้อกำหนดในพื้นที่ที่คุณกำลังใช้ Apple Watch และโปรดใช้สามัญสำนึกเสมอ

การชาร์จ ชาร์จ Apple Watch ด้วยสายชาร์จแบบแม่เหล็กสำหรับ Apple Watch (ที่ให้มาด้วย), ที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่ หรือแท่นวางชาร์จแบบแม่เหล็กสำหรับ Apple Watch และอะแดปเตอร์แปลงไฟแบรนด์ Apple ที่ใช้งานร่วมกันได้ (แต่ละรายการจำหน่ายแยกต่างหาก) คุณยังสามารถชาร์จ Apple Watch ด้วยอะแดปเตอร์แปลงไฟของบริษัทอื่น ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกับ USB 2.0 ขึ้นไปได้ และตรงตามระเบียบข้อบังคับระดับประเทศ และมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากลและระดับภูมิภาค อะแดปเตอร์อื่นอาจไม่เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย และการชาร์จด้วยอะแดปเตอร์นั้นอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้

การใช้สายหรือที่ชาร์จที่ชำรุด หรือการชาร์จขณะเปียกชื้น อาจก่อให้เพลิงไหม้ ไฟฟ้าช็อต บาดเจ็บได้ หรือทำให้ Apple Watch หรือทรัพย์สินอื่นเสียหาย เมื่อคุณใช้สายชาร์จแบบแม่เหล็กสำหรับ Apple Watch, ที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่ หรือแท่นวางชาร์จแบบแม่เหล็กสำหรับ Apple Watch กับอะแดปเตอร์แปลงไฟในการชาร์จ Apple Watch ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เสียบสายหรือแท่นวางชาร์จเข้ากับอะแดปเตอร์แปลงไฟจนสุดแล้วก่อนที่คุณจะเสียบอะแดปเตอร์เข้าในเต้ารับไฟฟ้า ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเก็บ Apple Watch, สายชาร์จแบบแม่เหล็กสำหรับ Apple Watch, ที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่, แท่นวางชาร์จแบบแม่เหล็กสำหรับ Apple Watch และอะแดปเตอร์แปลงไฟไว้ในพื้นที่ที่ระบายอากาศได้ดีในขณะที่ใช้งานหรือชาร์จอยู่

การสัมผัสกับความร้อนเป็นระยะเวลานาน Apple Watch, สายชาร์จแบบแม่เหล็กสำหรับ Apple Watch, ที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่, แท่นวางชาร์จแบบแม่เหล็กสำหรับ Apple Watch และอะแดปเตอร์แปลงไฟเป็นไปตามข้อจำกัดอุณหภูมิพื้นผิวที่กำหนดซึ่งกำหนดโดยระเบียบข้อบังคับระดับประเทศ และมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากลและระดับภูมิภาค อย่างไรก็ตาม แม้แต่ภายในข้อจำกัดเหล่านี้ การสัมผัสกับพื้นผิวที่อุ่นอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานอาจเป็นเหตุให้มีอาการปวดหรือเกิดการบาดเจ็บ ในการลดโอกาสที่จะเกิดความร้อนสูงเกินไปหรือเกิดการบาดเจ็บที่เกี่ยวกับความร้อน Apple Watch, สายชาร์จแบบแม่เหล็กสำหรับ Apple Watch, ที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่, แท่นวางชาร์จแบบแม่เหล็กสำหรับ Apple Watch และอะแดปเตอร์แปลงไฟจะอุ่นขึ้นเมื่อเสียบกับแหล่งจ่ายไฟ การใช้เซลลูลาร์บน Apple Watch Series 3 (GPS Cellular), Apple Watch Series 4 (GPS Cellular), Apple Watch Series 5 (GPS Cellular), Apple Watch SE (GPS Cellular) หรือ Apple Watch Series 6 (GPS Cellular) อาจจะทำให้อุปกรณ์อุ่นขึ้นได้ ใช้สามัญสำนึกในการหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่จะทำให้ผิวของคุณสัมผัสกับ Apple Watch, สายชาร์จแบบแม่เหล็กสำหรับ Apple Watch, ที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่, แท่นวางชาร์จแบบแม่เหล็กสำหรับ Apple Watch หรืออะแดปเตอร์แปลงไฟเป็นระยะเวลานานเมื่อเสียบสายอยู่ ตัวอย่างเช่น ในขณะที่ Apple Watch กำลังชาร์จอยู่ หรือในขณะที่สายชาร์จแบบแม่เหล็กสำหรับ Apple Watch, ที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่, แท่นวางชาร์จแบบแม่เหล็กสำหรับ Apple Watch หรืออะแดปเตอร์แปลงไฟเสียบอยู่กับแหล่งจ่ายไฟ อย่านอนทับอุปกรณ์เหล่านั้นหรือวางไว้ใต้ผ้าห่ม หมอน หรือร่างกายของคุณ ให้เอาใจใส่เป็นพิเศษหากคุณมีสภาพร่างกายที่ส่งผลต่อความสามารถของคุณในการตรวจจับความร้อนกับร่างกาย โปรดถอด Apple Watch ออกถ้าอุปกรณ์มีอุณหภูมิสูงขึ้นจนก่อให้เกิดความไม่สบายในการสวมใส่

การสูญเสียการได้ยิน การฟังเสียงที่ดังมากอาจทำให้การได้ยินของคุณเสียหาย เสียงรบกวน รวมทั้งการเปิดรับระดับเสียงระดับสูงอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เสียงดูเบาลงกว่าที่ควรจะเป็นได้ เปิดใช้การเล่นเสียงแล้วตรวจสอบระดับเสียงก่อนที่จะสวมหูฟังที่เชื่อมต่อบลูทูธเข้ากับหูของคุณ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสูญเสียการได้ยิน ให้ไปที่ เว็บไซต์เสียงและการได้ยิน

การเปิดรับความถี่คลื่นวิทยุApple Watch ใช้สัญญาณวิทยุเพื่อเชื่อมต่อกับเครือข่ายไร้สาย สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับพลังงานความถี่คลื่นวิทยุ (RF) ที่เกิดจากสัญญาณวิทยุและขั้นตอนที่คุณสามารถทำเพื่อลดการสัมผัสกับคลื่นนั้น ให้เปิดแอพ Apple Watch บน iPhone แล้วแตะ Apple Watch ของฉัน จากนั้นแตะ ทั่วไป > เกี่ยวกับ > ทางกฎหมาย > การเปิดรับความถี่คลื่นวิทยุ หรือไปที่ apple.com/legal/rfexposure

การรบกวนทางความถี่คลื่นวิทยุ สังเกตสัญลักษณ์และป้ายประกาศที่ห้ามหรือจำกัดการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ถึงแม้ว่า Apple Watch, สายชาร์จแบบแม่เหล็กสำหรับ Apple Watch, ที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่ และแท่นวางชาร์จแบบแม่เหล็กสำหรับ Apple Watch จะได้รับการออกแบบ ทดสอบ และผลิตมาให้ตรงตามข้อบังคับที่ควบคุมการปล่อยคลื่นความถี่วิทยุแล้ว แต่การปล่อยคลื่นความถี่วิทยุจาก Apple Watch, สายชาร์จแบบแม่เหล็กสำหรับ Apple Watch, ที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่ และแท่นวางชาร์จแบบแม่เหล็กสำหรับ Apple Watch ก็ยังสามารถส่งผลเสียต่อการทำงานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นได้ ซึ่งเป็นสาเหตุให้อุปกรณ์เหล่านั้นทำงานผิดพลาด ถอดสายชาร์จแบบแม่เหล็กสำหรับ Apple Watch, ที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่ และแท่นวางชาร์จแบบแม่เหล็กสำหรับ Apple Watch และปิด Apple Watch หรือใช้โหมดเครื่องบินเมื่ออยู่ในที่ห้ามใช้ เช่น ขณะเดินทางด้วยเครื่องบิน หรือเมื่อผู้มีอำนาจขอให้ปิดอุปกรณ์

การรบกวนอุปกรณ์ทางการแพทย์ Apple Watch มีส่วนประกอบและมีคลื่นวิทยุที่ปล่อยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า Apple Watch, สายนาฬิกาบางประเภท, สายชาร์จแบบแม่เหล็กสำหรับ Apple Watch, ที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่ และแท่นวางชาร์จแบบแม่เหล็กสำหรับ Apple Watch นั้นมีแม่เหล็กเป็นส่วนประกอบ สนามแม่เหล็กไฟฟ้าและแม่เหล็กเหล่านี้อาจรบกวนอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจและเครื่องกระตุกหัวใจ ปรึกษาแพทย์และผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ของคุณและสอบถามว่าคุณต้องรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยระหว่างอุปกรณ์การแพทย์และ Apple Watch, สายนาฬิกา, สายชาร์จแบบแม่เหล็กสำหรับ Apple Watch, ที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่ และแท่นวางชาร์จแบบแม่เหล็กสำหรับ Apple Watch หรือไม่ หยุดใช้ Apple Watch, สายนาฬิกา, สายชาร์จแบบแม่เหล็กสำหรับ Apple Watch, ที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่ และแท่นวางชาร์จแบบแม่เหล็กสำหรับ Apple Watch ถ้าคุณสงสัยว่ารบกวนอุปกรณ์ทางการแพทย์ของคุณ

ไม่ใช่อุปกรณ์การแพทย์ Apple Watch ไม่ใช่อุปกรณ์การแพทย์และไม่ควรใช้แทนการตัดสินใจทางการแพทย์ในระดับมืออาชีพ อุปกรณ์เหล่านี้ไม่ได้ออกแบบหรือมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้วินิจฉัยโรคหรือภาวะอื่นๆ หรือการรักษา บรรเทา การบำบัด หรือการป้องกันสภาวะหรือโรคภัยไข้เจ็บใดๆ โปรดปรึกษาผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของคุณก่อนที่จะตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับสุขภาพของคุณ

ภาวะการเจ็บป่วย โปรดปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะเริ่มหรือแก้ไขโปรแกรมการออกกำลังกายใดๆ โดยใช้ Apple Watch ควรระมัดระวังขณะออกกำลัง หยุดออกกำลังทันที ถ้าคุณรู้สึกผิดปรกติ หรือวิงเวียน ไอ หรือหายใจติดขัด เมื่อคุณออกกำลังกาย จะถือว่าคุณได้ยอมรับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง รวมถึงอาการบาดเจ็บต่างๆ ที่อาจเป็นผลจากกิจกรรมดังกล่าว ถ้าคุณมีภาวะการเจ็บป่วยที่คุณเชื่อว่า Apple Watch อาจส่งผลให้เกิดอาการได้ (ตัวอย่างเช่น ชัก หมดสติ ปวดตา หรือปวดศีรษะ) โปรดปรึกษาแพทย์ของคุณก่อนใช้ Apple Watch

สภาพบรรยากาศที่จุดติดไฟได้และสภาพบรรยากาศอื่นๆ การชาร์จหรือใช้ Aple Watch ในพื้นที่ที่มีสภาพบรรยากาศที่อาจจุดติดไฟได้ เช่น พื้นที่ที่อากาศประกอบด้วยสารเคมี ไอน้ำ หรืออนุภาคต่างๆ (เช่น เม็ดผง ฝุ่น หรือผงโลหะ) ที่มีความไวไฟอยู่ในระดับสูง อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ การปล่อยให้ Apple Watch อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความเข้มข้นของสารเคมีอุตสาหกรรมในปริมาณสูง ซึ่งรวมถึงแก๊ซของเหลวที่อยู่ในรูปใกล้ระเหย เช่น ฮีเลียม อาจทำให้การทำงานของ Apple Watch เสียหายได้ ปฏิบัติตามป้ายสัญลักษณ์และคำแนะนำทุกอย่าง

กิจกรรมที่มีผลกระทบสูง Apple Watch ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อการใช้งานในอันที่ความล้มเหลวจากการทำงานของคอมพิวเตอร์อาจนำไปสู่การเสียชีวิต การบาดเจ็บของบุคคล หรือความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมขั้นรุนแรงได้

อันตรายจากการหายใจไม่ออก สาย Apple Watch บางแบบอาจก่อให้เกิดอันตรายจากการหายใจไม่ออกในเด็กเล็กได้ โปรดเก็บสายนาฬิกาเหล่านี้ให้ห่างจากเด็กเล็ก

ปฏิกิริยาต่อผิวหนัง คนบางคนอาจมีปฏิกิริยากับวัสดุบางชนิดที่ใช้ในเครื่องอัญมณี นาฬิกา และอุปกรณ์สำหรับสวมใส่อื่นๆ ที่ต้องสัมผัสกับผิวหนังเป็นระยะเวลานาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจเกิดจากอาการแพ้ ตัวแปรตามธรรมชาติ การสัมผัสกับสารก่ออาการแพ้เป็นระยะเวลานาน เช่น สบู่ เหงื่อ หรือสาเหตุอื่นๆ คุณมีโอกาสเกิดอาการผิดปกติจากอุปกรณ์สำหรับสวมใส่มากขึ้นถ้าคุณมีอาการแพ้หรือความบอบบางอื่นๆ ถ้าคุณทราบว่าผิวหนังของตัวเองบอบบาง โปรดสวม Apple Watch ด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ คุณมีโอกาสเกิดอาการผิดปกติจากการสวม Apple Watch มากขึ้นถ้าคุณสวมแน่นเกินไป โปรดถอด Apple Watch ออกเป็นระยะเพื่อให้ผิวหนังของคุณได้ระบายอากาศ โปรดรักษาความสะอาดของ Apple Watch และสายนาฬิกา และดูแลให้แห้งอยู่เสมอ เพื่อลดโอกาสที่ผิวหนังจะเกิดความผิดปกติ ถ้าผิวหนังบริเวณรอบๆ หรือใต้ Apple Watch เกิดรอยแดง บวม คัน หรืออาการผิดปกติหรือความรู้สึกไม่สบายอื่นๆ โปรดถอด Apple Watch ออกแล้วปรึกษาแพทย์ของคุณของกลับมาสวมต่อ ถึงแม้ว่าอาการจะบรรเทาลงแล้ว แต่การใช้งานอย่างต่อเนื่องก็อาจทำให้อาการนั้นกลับมาเกิดใหม่หรือร้ายแรงขึ้นได้

Apple Watch รุ่นที่มีแตนเลสสตีลหรือตัวเรือนอะลูมิเนียม ส่วนที่เป็นสแตนเลสสตีลของสาย Apple Watch บางรุ่น ส่วนที่เป็นโลหะของสาย Hermès และแม่เหล็กในนาฬิกาและสายที่มีนิกเกิ้ล มีโอกาสน้อยที่จะสัมผัสกับนิกเกิ้ลจากวัสดุเหล่านี้ แต่ลูกค้าบางรายที่มีอาการแพ้นิกเกิ้ลควรใช้ความระมัดระวังเมื่อสวมนาฬิกาจนกว่าจะยืนยันได้ว่าไม่เกิดอาการแพ้

ตัวเรือน Apple Watch และสาย Apple Watch มีสารอะครีเลทและสารเมทธาครีเลทอยู่เล็กน้อย อะครีเลทและเมทธาครีเลทเป็นสารที่พบได้ในผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคหลายประเภทที่ต้องสัมผัสกับผิวหนัง เช่น พลาสเตอร์ปิดแผล คนบางคนอาจมีผิวที่ไวต่อสารเหล่านี้ หรืออาจเกิดอาการระคายเคืองเมื่อเวลาผ่านไป Apple Watch และสายนาฬิกาได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ชิ้นส่วนต่างๆ ที่มีสารอะครีเลทและสารเมทธาครีเลทไม่สัมผัสกับผิวหนังของคุณโดยตรง

วัสดุที่ใช้บน Apple Watch และสายนาฬิกา Apple Watch นั้นได้มาตรฐานเครื่องอัญมณีตามที่ U.S. Consumer Product Safety Commission กำหนด ข้อกำหนดของยุโรปที่บังคับใช้ และมาตรฐานระหว่างประเทศอื่นๆ