ข้อมูลด้านความปลอดภัยที่สำคัญสำหรับ iPhone
คำเตือน: การไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านความปลอดภัยเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้ ไฟฟ้าช็อต การบาดเจ็บ หรือทำให้ iPhone หรือทรัพย์สินอื่นเสียหาย อ่านข้อมูลด้านความปลอดภัยทั้งหมดด้านล่างก่อนใช้ iPhone
การดูแล ใช้งาน iPhone ด้วยความระมัดระวัง iPhone ทำจากโลหะ แก้ว และพลาสติก และมีชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ภายในที่เปราะบาง ซึ่ง iPhone หรือแบตเตอรี่ของ iPhone อาจเสียหายได้หากตกหล่น ถูกเผา ถูกเจาะหรือทำให้แตก หรือหากสัมผัสกับของเหลว ถ้าคุณสงสัยว่า iPhone หรือแบตเตอรี่ได้รับความเสียหาย ให้หยุดใช้ iPhone เพราะความเสียหายดังกล่าวอาจก่อให้เกิดภาวะร้อนเกินไป หรือคุณอาจได้รับบาดเจ็บ ห้ามใช้ iPhone ที่กระจกมีรอยร้าว เพราะอาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บ ถ้าคุณกังวลเกี่ยวกับการขีดข่วนของพื้นผิวของ iPhone ให้พิจารณาใช้เคสหรือซองหุ้ม
การซ่อมแซม อย่าแกะเปิด iPhone และอย่าพยายามซ่อมแซม iPhone ด้วยตัวเอง การแยกชิ้นส่วน iPhone อาจทำให้เกิดความเสียหาย ส่งผลให้สูญเสียความสามารถในการทนน้ำและการกระเซ็นของน้ำ (รุ่นที่รองรับ) หรือทำให้คุณได้รับบาดเจ็บ อีกทั้ง iPhone 7 ขึ้นไปที่มีเลเซอร์ตั้งแต่หนึ่งชิ้นขึ้นไปที่อาจได้รับความเสียหายในระหว่างการซ่อมหรือแยกชิ้นส่วน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอันตรายจากการโดนเลเซอร์อินฟาเรดที่ปล่อยออกมาโดยที่มองไม่เห็น ถ้า iPhone เสียหายหรือทำงานผิดปกติ ให้ติดต่อ Apple หรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตจาก Apple การซ่อมแซมโดยผู้ให้บริการรายอื่นนอกเหนือจาก Apple หรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตจาก Apple อาจไม่เกี่ยวข้องกับการใช้ชิ้นส่วนของแท้ของ Apple และอาจมีผลต่อความปลอดภัยและความสามารถในการทำงานของอุปกรณ์ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซ่อมแซมและบริการได้ที่เว็บไซต์ซ่อมแซม iPhone
แบตเตอรี่ อย่าพยายามเปลี่ยนแบตเตอรี่ iPhone ด้วยตัวเอง แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนใน iPhone ควรได้รับการเปลี่ยนโดย Apple หรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาต การเปลี่ยนหรือซ่อมแซมแบตเตอรี่ที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้แบตเตอรี่เสียหาย เกิดภาวะร้อนเกินไป หรือก่อให้เกิดการบาดเจ็บ แบตเตอรี่ต้องนำมารีไซเคิลหรือกำจัดแยกจากขยะในครัวเรือน ห้ามเผาแบตเตอรี่ สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการบริการและการรีไซเคิลแบตเตอรี่ ให้ดูที่เว็บไซต์การบริการและการรีไซเคิลแบตเตอรี่
สิ่งรบกวนสมาธิ การใช้ iPhone ในบางสภาพแวดล้อมสามารถรบกวนสมาธิคุณ และอาจก่อให้เกิดสถานการณ์ที่เป็นอันตรายได้ (ตัวอย่างเช่น หลีกเลี่ยงการใช้หูฟังขณะขี่จักรยานและหลีกเลี่ยงการพิมพ์ข้อความในขณะขับรถ) สังเกตกฎเกณฑ์ที่ห้ามหรือจำกัดการใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่หรือหูฟัง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความปลอดภัยในขณะขับขี่ โปรดดู เปิดใช้ห้ามรบกวนในระหว่างการขับขี่บน iPhone
การนำทาง แอพแผนที่จะอิงตามบริการข้อมูล บริการให้ข้อมูลเหล่านี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ และอาจไม่มีให้ใช้ได้ครบทุกประเทศหรือภูมิภาค ซึ่งส่งผลให้แผนที่และข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งที่ตั้งอาจไม่มีให้บริการ ไม่ถูกต้อง หรือไม่สมบูรณ์ เปรียบเทียบข้อมูลที่มีในแอพแผนที่กับสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวคุณ ใช้สามัญสำนึกเมื่อใช้การนำทาง สังเกตสภาพถนนปัจจุบันและป้ายบนเสาอยู่เสมอเพื่อแก้ปัญหาเรื่องความแตกต่างกันของข้อมูลที่ได้รับกับความเป็นจริง คุณสมบัติแผนที่บางอย่างต้องใช้ บริการหาตำแหน่งที่ตั้ง
การชาร์จ ในการชาร์จ iPhone ให้ปฏิบัติตามวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้:
เชื่อมต่อ iPhone เข้ากับเต้ารับไฟฟ้าโดยใช้สายชาร์จ (ที่รวมมาด้วย) และอะแดปเตอร์แปลงไฟ Apple USB (มีจำหน่ายแยกต่างหาก)
วาง iPhone หงายหน้าขึ้นบนที่ชาร์จ MagSafe หรือที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่ (เสียบเข้ากับอะแดปเตอร์แปลงไฟ Apple USB-C ขนาด 20 วัตต์หรืออะแดปเตอร์แปลงไฟอื่นที่ใช้งานร่วมกันได้) หรือบนที่ชาร์จที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Qi (รองรับบน iPhone 8 ขึ้นไป และที่ชาร์จ MagSafe, ที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่, อะแดปเตอร์แปลงไฟ และที่ชาร์จที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Qi มีจำหน่ายแยกต่างหาก)
คุณยังสามารถชาร์จ iPhone ด้วยสายและอะแดปเตอร์แปลงไฟที่ระบุว่า “Made for iPhone” หรือสายและอะแดปเตอร์แปลงไฟของบริษัทอื่น ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกับ USB 2.0 ขึ้นไปได้ และตรงตามระเบียบข้อบังคับระดับประเทศ และมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากลและระดับภูมิภาค อะแดปเตอร์อื่นอาจไม่เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย และการชาร์จด้วยอะแดปเตอร์นั้นอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้
การใช้สายหรือที่ชาร์จที่ชำรุด หรือการชาร์จขณะเปียกชื้น อาจก่อให้เพลิงไหม้ ไฟฟ้าช็อต บาดเจ็บได้ หรือทำให้ iPhone หรือทรัพย์สินอื่นเสียหาย เมื่อคุณใช้สายชาร์จ (ที่รวมมาด้วย) หรือที่ชาร์จแบบไร้สาย (มีจำหน่ายแยกต่างหาก) ในการชาร์จ iPhone ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เสียบช่องต่อ USB ของเครื่องเข้ากับอะแดปเตอร์แปลงไฟที่ใช้งานร่วมกันได้จนสุดแล้วก่อนที่คุณจะเสียบปลั๊กอะแดปเตอร์เข้ากับเต้ารับไฟฟ้า ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะเก็บ iPhone สายชาร์จ อะแดปเตอร์แปลงไฟ และที่ชาร์จแบบไร้สายไว้ในพื้นที่ที่ระบายอากาศได้ดีในขณะที่ใช้งานหรือชาร์จอยู่ เมื่อใช้ที่ชาร์จแบบไร้สาย ให้นำเคสแบบโลหะออก และหลีกเลี่ยงไม่วางวัตถุแปลกปลอมที่ทำจากโลหะไว้บนที่ชาร์จ (ตัวอย่างเช่น กุญแจ เหรียญ แบตเตอรี่ หรือเครื่องประดับ) เนื่องจากอาจทำให้เกิดความร้อนหรือรบกวนการชาร์จ
สายชาร์จและหัวต่อ หลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวของคุณสัมผัสกับสายชาร์จและหัวต่อเป็นระยะเวลานานขณะที่สายชาร์จเชื่อมต่ออยู่กับแหล่งจ่ายไฟ เนื่องจากอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือการบาดเจ็บได้ ควรหลีกเลี่ยงการนอนหลับหรือนั่งทับสายชาร์จหรือหัวต่อ
การสัมผัสกับความร้อนเป็นระยะเวลานาน iPhone และอะแดปเตอร์แปลงไฟ Apple USB (มีจำหน่ายแยกต่างหาก) เป็นไปตามข้อจำกัดอุณหภูมิพื้นผิวซึ่งกำหนดโดยระเบียบข้อบังคับระดับประเทศ และมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากลและระดับภูมิภาค อย่างไรก็ตาม แม้แต่ภายในข้อจำกัดเหล่านี้ การสัมผัสกับพื้นผิวที่อุ่นอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานอาจเป็นเหตุให้มีอาการปวดหรือเกิดการบาดเจ็บ ในการลดโอกาสที่จะเกิดความร้อนสูงเกินไปหรือเกิดการบาดเจ็บที่เกี่ยวกับความร้อน ใช้สามัญสำนึกในการหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่จะทำให้ผิวของคุณสัมผัสกับอุปกรณ์ อะแดปเตอร์แปลงไฟ หรือที่ชาร์จแบบไร้สายเป็นระยะเวลานานในขณะที่ทำงานหรือเสียบอยู่กับแหล่งจ่ายไฟ ตัวอย่างเช่น อย่านอนทับอุปกรณ์ อะแดปเตอร์แปลงไฟ หรือที่ชาร์จแบบไร้สาย หรือวางสิ่งเหล่านั้นไว้ใต้ผ้าห่ม หมอน หรือร่างกายของคุณในขณะที่เสียบอยู่กับแหล่งจ่ายไฟ เก็บ iPhone ของคุณ อะแดปเตอร์แปลงไฟ และที่ชาร์จแบบไร้สายไว้ในพื้นที่ที่ระบายอากาศได้ดีในขณะที่ใช้งานหรือชาร์จอยู่ ให้เอาใจใส่เป็นพิเศษหากคุณมีสภาพร่างกายที่ส่งผลต่อความสามารถของคุณในการตรวจจับความร้อนกับร่างกาย
อะแดปเตอร์แปลงไฟ USB (มีจำหน่ายแยกต่างหาก) ในการใช้งานอะแดปเตอร์แปลงไฟ Apple USB อย่างปลอดภัยและลดความเป็นไปได้ของการบาดเจ็บหรือความเสียหายที่เกี่ยวกับความร้อน ให้เสียบอะแดปเตอร์แปลงไฟเข้ากับเต้ารับไฟฟ้าโดยตรง อย่าใช้อะแดปเตอร์แปลงไฟในที่เปียก เช่น ใกล้อ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ หรือห้องอาบน้ำ และอย่าใช้มือที่เปียกอยู่เสียบหรือถอดอะแดปเตอร์แปลงไฟ ให้หยุดใช้อะแดปเตอร์แปลงไฟและสาย หากเกิดกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้:
ปลั๊กหรือขาของอะแดปเตอร์แปลงไฟเสียหาย
สายชาร์จเกิดการเปื่อยรุ่ยหรือเกิดความเสียหายอื่นๆ
อะแดปเตอร์แปลงไฟได้รับความชื้นมากเกินไป หรือมีของเหลวหกใส่อะแดปเตอร์แปลงไฟ
อะแดปเตอร์แปลงไฟตกและตัวอะแดปเตอร์ได้รับความเสียหาย
ข้อมูลจำเพาะของอะแดปเตอร์แปลงไฟ Apple USB-C ขนาด 20 วัตต์:
ความถี่: 50 ถึง 60 Hz เฟสเดียว
แรงดันไฟฟ้าของสาย: 100 ถึง 240 V
แรงดันไฟฟ้าขาออก/กระแสไฟฟ้าขาออก: 9 VDC/2.2A
กำลังไฟขาออกขั้นต่ำ: 20 วัตต์
พอร์ตขาออก: USB-C
ข้อมูลจำเพาะของอะแดปเตอร์แปลงไฟ Apple USB-C ขนาด 18 วัตต์:
ความถี่: 50 ถึง 60 Hz เฟสเดียว
แรงดันไฟฟ้าของสาย: 100 ถึง 240 V
แรงดันไฟฟ้าออก: 5V/3A หรือ 9V/2A
พอร์ตขาออก: USB-C
ข้อมูลจำเพาะของอะแดปเตอร์แปลงไฟ Apple USB ขนาด 5 วัตต์:
ความถี่: 50 ถึง 60 Hz เฟสเดียว
แรงดันไฟฟ้าของสาย: 100 ถึง 240 V
แรงดันไฟฟ้าออก: 5V/1A
พอร์ตขาออก: USB
การสูญเสียการได้ยิน การฟังเสียงที่ดังมากอาจทำให้การได้ยินของคุณเสียหาย เสียงรบกวน รวมทั้งการเปิดรับระดับเสียงระดับสูงอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เสียงดูเบาลงกว่าที่ควรจะเป็นได้ เปิดใช้การเล่นเสียงและตรวจสอบระดับเสียงก่อนเสียบเข้าหูของคุณ สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับวิธีตั้งค่าการจำกัดระดับเสียงสูงสุด ให้ดูที่ จำกัดระดับเสียงของหูฟัง โปรดดูที่เว็บไซต์เสียงและการได้ยิน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสูญเสียการได้ยิน
คำเตือน: ในการป้องกันอันตรายต่อการได้ยินที่อาจเกิดขึ้นได้ ไม่ควรฟังในระดับเสียงที่ดังมากเป็นระยะเวลานาน
การเปิดรับความถี่คลื่นวิทยุ iPhone ใช้สัญญาณวิทยุในการเชื่อมต่อกับเครือข่ายแบบไร้สาย สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับพลังงานความถี่คลื่นวิทยุ (RF) ที่เป็นผลจากสัญญาณวิทยุและขั้นตอนที่คุณสามารถทำเพื่อลดการสัมผัสได้ ให้ไปที่ การตั้งค่า > ทั่วไป > กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ > การเปิดรับความถี่คลื่นวิทยุ หรือให้ดูที่เว็บไซต์การเปิดรับความถี่คลื่นวิทยุ
การรบกวนทางความถี่คลื่นวิทยุ สังเกตสัญลักษณ์และป้ายประกาศที่ห้ามหรือจำกัดการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แม้ว่า iPhone จะได้รับการออกแบบ ทดสอบ และผลิตเพื่อให้ตรงตามระเบียบข้อบังคับการควบคุมการปล่อยความถี่คลื่นวิทยุ แต่การปล่อยคลื่นดังกล่าวจาก iPhone สามารถส่งผลในทางลบต่อการดำเนินการของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นสาเหตุให้อุปกรณ์ทำงานผิดปกติได้ เมื่ออยู่ในที่ห้ามใช้ เช่น ขณะเดินทางด้วยเครื่องบิน หรือเมื่อผู้มีอำนาจขอให้ปิดเครื่อง ให้ปิด iPhone หรือใช้โหมดเครื่องบิน หรือ การตั้งค่า > Wi-Fi และการตั้งค่า > บลูทูธ เพื่อปิดใช้ตัวส่งสัญญาณไร้สายของ iPhone
การรบกวนอุปกรณ์ทางการแพทย์ iPhone มีแม่เหล็กเป็นส่วนประกอบ รวมทั้งประกอบด้วยชิ้นส่วนและคลื่นวิทยุที่ปล่อยสนามแม่เหล็กไฟฟ้าได้ แม่เหล็กและสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเหล่านี้อาจรบกวนอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้ เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจและเครื่องกระตุกหัวใจ
แม้ว่า iPhone 12 ทุกรุ่นมีแม่เหล็กเป็นส่วนประกอบมากกว่า iPhone รุ่นก่อนหน้า แต่ก็ไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่แม่เหล็กจะรบกวนอุปกรณ์ทางการแพทย์มากกว่า iPhone รุ่นก่อนหน้า
ปรึกษาแพทย์และผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ของคุณเพื่อขอข้อมูลเฉพาะของอุปกรณ์ทางการแพทย์ของคุณ และปรึกษาว่าคุณต้องรักษาระยะห่างระหว่างอุปกรณ์ทางการแพทย์กับ iPhone หรือไม่ อุปกรณ์ทางการแพทย์มีหลายประเภทและผู้ผลิตมักให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์อย่างปลอดภัยสำหรับผลิตภัณฑ์ไร้สายหรือผลิตภัณฑ์ที่มีแม่เหล็กเพื่อป้องกันการรบกวนที่อาจเกิดขึ้น ถ้าคุณสงสัยว่า iPhone กำลังรบกวนอุปกรณ์ทางการแพทย์ของคุณ ให้หยุดใช้ iPhone
ไม่ใช่อุปกรณ์ทางการแพทย์ iPhone ไม่ใช่อุปกรณ์ทางการแพทย์และไม่ควรนำมาใช้แทนที่การตัดสินใจทางการแพทย์มืออาชีพ อุปกรณ์เหล่านี้ไม่ได้ออกแบบหรือมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้วินิจฉัยโรคหรือภาวะอื่นๆ หรือการรักษา บรรเทา การบำบัด หรือการป้องกันสภาวะหรือโรคภัยไข้เจ็บใดๆ โปรดปรึกษาผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของคุณก่อนที่จะตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับสุขภาพของคุณ
ภาวะการเจ็บป่วย ถ้าคุณมีอาการป่วยหรือมีอาการใดๆ ที่คุณคิดว่าอาจได้รับผลกระทบจาก iPhone หรือแสงไฟแบบกะพริบ (เช่น ชัก หน้ามืด ตาล้า หรือปวดหัว) ให้ปรึกษาแพทย์ของคุณก่อนใช้ iPhone
สภาพบรรยากาศที่จุดติดไฟได้และสภาพบรรยากาศอื่นๆ การชาร์จหรือใช้ iPhone ในพื้นที่ที่มีสภาพบรรยากาศที่อาจเกิดการระเบิดได้ เช่น ในพื้นที่ที่อากาศประกอบด้วยสารเคมี สารระเหย หรือธุลี (เช่น เม็ดผง ฝุ่น หรือผงโลหะ) ที่ลุกติดไฟได้ง่ายในระดับสูง อาจเป็นอันตรายได้ การปล่อยให้ iPhone สัมผัสกับสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมีอุตสาหกรรมความเข้มข้นสูง รวมถึงการวางอุปกรณ์ไว้ใกล้กับแก๊สเหลวระเหยอย่างฮีเลียม อาจทำให้ฟังก์ชั่นการทำงานของ iPhone เสียหายหรือบกพร่องได้ ปฏิบัติตามป้ายสัญลักษณ์และคำแนะนำทุกอย่าง
การเคลื่อนไหวซ้ำๆ เมื่อคุณทำกิจกรรมที่ซ้ำอยู่ท่าเดิม เช่น การพิมพ์ การปัด หรือเล่นเกมบน iPhone คุณอาจมีอาการปวดมือ แขน ข้อมือ ไหล่ คอ หรือส่วนอื่นๆ ของร่างกายคุณได้ ถ้าคุณอาจมีอาการปวด ให้หยุดใช้ iPhone แล้วปรึกษาแพทย์
กิจกรรมที่ส่งผลร้ายแรง อุปกรณ์นี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์สำหรับการใช้งานที่ถ้าอุปกรณ์ใช้งานไม่ได้แล้วอาจนำไปสู่การเสียชีวิต อาการบาดเจ็บส่วนบุคคล หรือความเสียหายรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อม
อันตรายจากการหายใจไม่ออก อุปกรณ์ของ iPhone บางชิ้นอาจก่อให้เกิดอันตรายจากการหายใจไม่ออกในเด็กเล็กได้ เก็บอุปกรณ์เสริมเหล่านี้ให้ห่างจากเด็กเล็ก