Wy/th/ประเทศไทย
ไทย มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ราชอาณาจักรไทย เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศพม่าทางทิศเหนือและตะวันตก ประเทศลาวทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ประเทศกัมพูชาทางทิศตะวันออก และประเทศมาเลเซียทางทิศใต้ โดยกรุงเทพมหานครเป็นศูนย์กลางและนครใหญ่สุดของประเทศ ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากที่สุดของภูมิภาค มีสถานที่ทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และแหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมกระจายอยู่ทั่วทุกหนแห่ง อาหารไทยเป็นที่ขึ้นชื่อของนักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศ ตลอดจนที่พักราคาถูก แต่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยที่คุณต้องการ
แม้จะมีกระแสการท่องเที่ยวอย่างหนักหน่วง แต่ประเทศก็ยังคงรักษาเอกลักษณ์ที่เป็นแก่นสารไว้ด้วยวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของตัวเอง รวมถึงผู้คนในประเทศซึ่งมีชื่อเสียงในด้านรอยยิ้มและวิถีชีวิตแสนสุข นักท่องเที่ยวจํานวนมากมาที่ประเทศไทยและมักจะขยายเวลาการพักของพวกเขาให้ไกลกว่าแผนการเดิม อีกทั้งนักเดินทางคนอื่น ๆ ก็ไม่เคยหาเหตุผลที่จะจากไป
ทำความเข้าใจ
[edit | edit source]ประวัติศาสตร์
[edit | edit source]ประวัติศาสตร์ไทยมักเริ่มนับตั้งแต่ ภูมิภาคสุวรรณภูมิเคยถูกชาวมอญ เขมรและมาเลย์ปกครองมาก่อน ต่อมาคนไทยได้สถาปนาอาณาจักรของตนเอง เช่น อาณาจักรสุโขทัย ไล่เลี่ยกันกับอาณาจักรล้านนา อาณาจักรเชียงแสน และอาณาจักรอยุธยา อาณาจักรสุโขทัยเจริญรุ่งเรืองในช่วงเวลาค่อนข้างสั้นประมาณ 200 ปี ก็ถูกผนวกรวมกับอาณาจักรอยุธยา
อาณาจักรอยุธยาเป็นอาณาจักรที่รุ่งเรืองมั่งคั่ง เป็นศูนย์กลางการค้าระดับนานาชาติ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงปฏิรูปการปกครอง ซึ่งบางส่วนใช้สืบมาจนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และยังทรงตราพระราชกำหนดศักดินา ทำให้อยุธยาเป็นสังคมศักดินา อยุธยาเริ่มติดต่อกับชาติตะวันตกเมื่อ พ.ศ. 2054 หลังโปรตุเกสยึดครองมะละกา จากนั้นใน พ.ศ. 2112 กรุงศรีอยุธยาตกเป็นประเทศราชของราชวงศ์ตองอูแห่งพม่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงประกาศอิสรภาพในอีก 15 ปีให้หลัง อาณาจักรอยุธยาเจริญถึงขีดสุดหลังจากนั้น ทั้งความสัมพันธ์กับต่างประเทศก็รุ่งเรืองมากในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช อาณาจักรอยุธยาเริ่มเสื่อมลง จนล่มสลายลงอย่างสิ้นเชิงเมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง ใน พ.ศ. 2310
พระยาตากได้รวบรวมไพร่พลกอบกู้เอกราช และย้ายราชธานีมายังกรุงธนบุรี รัชสมัยของพระองค์ถือเป็นช่วงเวลาของการทำสงครามและการฟื้นฟูความเจริญของชาติ อาณาจักรธนบุรีมีพระมหากษัตริย์ปกครองพระองค์เดียว กินระยะเวลาเพียง 15 ปี แล้วพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ขึ้นเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 กรุงรัตนโกสินทร์ยังเผชิญกับภัยคุกคามจากประเทศเพื่อนบ้าน กระทั่งรัชกาลที่ 4 การลงนามในสนธิสัญญาเบาว์ริง ทำให้ชาติตะวันตกหลายชาติเข้ามาทำสนธิสัญญาอันไม่เป็นธรรมอีกหลายฉบับ ต่อมา แม้จะมีการยกดินแดนให้ฝรั่งเศสและอังกฤษหลายครั้ง แต่สยามไม่เคยตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก กุศโลบายของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทำให้ไทยเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โดยอยู่ฝ่ายสัมพันธมิตร อันทำให้สยามได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ และนำมาซึ่งการแก้ไขสนธิสัญญาอันไม่เป็นธรรมทั้งหลาย
วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 เกิดการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองมาเป็นประชาธิปไตย ทำให้คณะราษฎรเข้ามามีบทบาทในทางการเมือง ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศไทยได้ลงนามเป็นพันธมิตรทางทหารกับญี่ปุ่น แต่ในช่วงสงครามเย็น ประเทศไทยได้ดำเนินนโยบายเป็นพันธมิตรกับสหรัฐอเมริกา มีนโยบายต่อต้านการขยายตัวของคอมมิวนิสต์ในภูมิภาค หลังการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง ประเทศไทยยังถือได้ว่าอยู่ในระบอบเผด็จการในทางปฏิบัติอยู่หลายทศวรรษ ประเทศไทยประสบกับความไร้เสถียรภาพทางการเมือง และมีการสืบทอดอำนาจรัฐบาลทหารผ่านรัฐประหารหลายสิบครั้ง อย่างไรก็ดี หลังจากนั้นได้มีเหตุการณ์เรียกร้องประชาธิปไตยครั้งสำคัญในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ประชาธิปไตยในประเทศเริ่มมีความมั่นคงยิ่งขึ้น
ที่ตั้งตามภูมิศาสตร์
[edit | edit source]ประเทศไทยตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระหว่างเส้นละติจูดที่ 5 องศา 37 ลิปดาเหนือ กับ 20 องศา 27 ลิปดาเหนือ และระหว่างเส้นลองจิจูดที่ 97 องศา 22 ลิปดาตะวันออก กับ 105 องศา 37 ลิปดาตะวันออก มีพรมแดนทางทิศตะวันออกติดกับประเทศลาวและประเทศกัมพูชา ทิศใต้ติดอ่าวไทยและประเทศมาเลเซีย ทิศตะวันตกติดทะเลอันดามันและประเทศพม่า และทิศเหนือติดกับประเทศพม่าและประเทศลาว
การแบ่งภูมิภาค
[edit | edit source]ประเทศไทยแบ่งภูมิภาคออกเป็น 6 ภูมิภาค 77 จังหวัด โดยใช้เกณฑ์อย่างเป็นทางการของราชบัณฑิตยสถาน
ภาคเหนือ เชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน อุตรดิตถ์ |
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หนองคาย นครพนม สกลนคร อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย มุกดาหาร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น อำนาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ชัยภูมิ นครราชสีมา บึงกาฬ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี |
ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร พิษณุโลก สุโขทัย เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร นครสวรรค์ ลพบุรี ชัยนาท อุทัยธานี สิงห์บุรี อ่างทอง สระบุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครนายก ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม |
ภาคตะวันออก สระแก้ว ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด |
ภาคตะวันตก ตาก กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ |
ภาคใต้ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ พังงา ภูเก็ต พัทลุง ตรัง ปัตตานี สงขลา สตูล นราธิวาส ยะลา |
ภูมิประเทศ
[edit | edit source]ประเทศไทยมีลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลาย ภาคเหนือเป็นพื้นที่ภูเขาสูงสลับซับซ้อน รวมทั้งยังปกคลุมด้วยป่าไม้อันเป็นต้นน้ำที่สำคัญของประเทศ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ของที่ราบสูงโคราช สภาพของดินค่อนข้างแห้งแล้งและไม่ค่อยเอื้อต่อการเพาะปลูก ภาคกลางเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุดในประเทศ และถือได้ว่าเป็นแหล่งปลูกข้าวที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก ภาคใต้เป็นส่วนหนึ่งของคาบสมุทรไทย-มาเลย์ ขนาบด้วยทะเลทั้งสองด้าน ส่วนภาคตะวันตกเป็นหุบเขาและแนวเทือกเขาซึ่งพาดตัวมาจากทางตะวันตกของภาคเหนือ
ภูมิอากาศ
[edit | edit source]ภูมิอากาศ | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย (°C) | 32 | 33 | 34 | 35 | 35 | 35 | 34 | 33 | 33 | 33 | 32 | 31 |
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย (°C) | 24 | 24 | 26 | 26 | 25 | 25 | 26 | 26 | 25 | 26 | 25 | 23 |
แหล่งที่มา: Climate-zone [1]. อุณหภูมิกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2548 |
ประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้นของโลก มีลักษณะภูมิอากาศแบบเขตร้อน อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 18-34 องศาเซลเซียส พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ภายใต้ลักษณะภูมิอากาศแบบสะวันนา คือ มีช่วงฤดูฝนและฤดูแล้งสลับกันชัดเจน ส่วนภาคใต้และภาคตะวันออกมีภูมิอากาศแบบป่าฝนเมืองร้อน คือ ฝนตกเกือบตลอดปี
เวลา
[edit | edit source]ประเทศไทยอยู่ในเขตเร็วกว่า UTC 7 ชั่วโมง (UTC 7) เท่ากับประเทศเพื่อนบ้านของประเทศไทย (กัมพูชา, อินโดนีเซีย, ลาว และเวียดนาม)
ผู้คน
[edit | edit source]ผู้คนในประเทศไทยนั้นมีความหลากหลายทางเชื้อชาติ นอกจากที่จะมีเชื้อชาติไทยแล้ว ยังมีเชื้อชาติอื่นอีก ได้แก่ ชาวไทยเชื้อสายลาว ชาวไทยเชื้อสายมอญ ชาวไทยเชื้อสายเขมร รวมไปถึงกลุ่มชาวไทยเชื้อสายจีน ชาวไทยเชื้อสายมลายู ชาวชวา (แขกแพ) ชาวจาม (แขกจาม) ชาวเวียด ชาวพม่า และชาวไทยภูเขาเผ่าต่าง ๆ เช่น ชาวกะเหรี่ยง ลีซอ ชาวม้ง ส่วย โดยแต่ละเชื้อชาติจะกระจายพันธุ์อยู่ทั่วประเทศ
คนไทยนั้นเป็นคนจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เพราะมีวัฒนธรรมประเพณีในด้านนี้ ดังนั้นคนไทยจึงยิ้มง่ายและอัธยาสัยดี คนต่างชาติจึงยกย่องให้ประเทศไทยเป็น "The Land of Smile" หรือในภาษาไทยเรียกว่า "สยามเมืองยิ้ม" นอกจากการมีจิตใจดีงานแล้ว คนไทยยังมีประเพณีในเรื่องของมารยาท ไม่ว่าจะเป็น การไหว้ การทักทาย "สวัสดีครับ/ค่ะ" การกราบ หรือการทำความเคารพ ฯลฯ ซึ่งมารยาททั้งหมดแสดงถึงความมีสัมมาคารวะ การให้เกียรติซึ่งกันและกัน และความสุภาพ อ่อนน้อม ถ่อมตน ซึ่งอันเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติไทย
คนไทยนับถือศาสนาหลายศาสนาด้ยนกัน โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ ประชากรในประเทศไทยนับถือศาสนา 99.37% โดยแบ่งออกเป็นศาสนาพุทธ 93.83% ศาสนาอิสลาม 4.56% ศาสนาคริสต์ 0.80% ศาสนาฮินดู 0.086% ลัทธิขงจื๊อ 0.011% และอื่นๆ 0.079% และมีคนที่ไม่นับถือศาสนาและไม่ทราบศาสนา 0.27% และ 0.36% ตามลำดับ
ศูนย์นักท่องเที่ยว
[edit | edit source]ในประเทศไทย มีศูนย์ข้อมูลสำหรับให้บริการนักท่องเที่ยว ที่ควบคุมงานโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แต่ละแห่งมีเวลาเปิด–ปิดที่แตกต่างกัน โดยศูนย์ข้อมูลที่ตั้งอยู่ที่สำนักงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยทุกแห่งและศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวที่ถนนราชดำเนินนอก จะเปิดให้บริการทุกวัน ไม่เว้นวันหยุด ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. นอกจากนี้ยังมีศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวอยู่ทั่วประเทศในเกือบทุกจังหวัด โดยเฉพาะตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ อย่างไรก็ตาม ททท. มีบริการ TAT Call Center ให้สอบถามข้อมูลและข่าวสารด้านการท่องเที่ยวจากศูนย์บริการข่าวสารการท่องเที่ยวโดยตรง ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1672 เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00-20.00 น. โดยสามารถเลือกใช้บริการได้ 3 รูปแบบ คือ รับข้อมูลท่องเที่ยวทางโทรสาร รับฟังข้อมูลจากระบบอัตโนมัติ และบริการตอบข้อมูลทางโทรศัพท์โดยพนักงาน Call Center นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลท่องเที่ยวได้จากตำรวจท่องเที่ยว ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1155 บริการตลอด 24 ชั่วโมง
การเดินทาง
[edit | edit source]
ระยะเวลาการพำนักในประเทศไทย การที่นักท่องเที่ยวท่องเที่ยวในประเทศไทยนั้น ด่านตรวจคนในประเทศไทย ได้จำแนกประเทศในการพำนักพักพิงที่ประเทศไทย โดยนักท่องเที่ยวที่ถือหนังสือเดินทางของประเทศแถบตะวันตก และในทวีปเอเชียหลายประเทศ ไม่ต้องทำววีซ่าในการเขามา โดยประเทศกลุ่มนี้อยู่ได้ 15 - 30 วันเท่านั้น ส่วนประเทศที่มีความเสี่ยงต่อโรคไข้เหลือง จะพำนักพักพิงในประเทศไทยได้ต่อเมื่อยื่นใบสำคัญรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้เหลืองมาพร้อมกับหนังสือเดินทาง |
คุณสามารถมาท่องเที่ยวประเทศไทย เดินทางมายังประเทศไทย ทั้งที่ต้องการมาทำธุรกิจ ท่องเที่ยว รวมทั้งแวะพักและท่องเที่ยวก่อนเดินทางต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ ด้วย ในช่วงวันหยุดเทศกาล ถนนหนทางและเมืองท่องเที่ยวต่างๆ ล้วนคึกคักคลาคล่ำไปด้วยนักเดินทาง และเพราะประเทศไทยมีระบบสาธารณูปโภคและการบริการสาธารณะที่ได้มาตรฐาน การคมนาคมขนส่งในประเทศไทยมีมากมายหลายรูปแบบ ทั้งทางบก (รถยนต์ รถทัวร์ รถเมล์ รถจักรยานยนต์ รถจักรยาน รถตุ๊กตุ๊ก รถไฟ รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน) ทางน้ำ (เรือ) และทางอากาศ (เครื่องบิน) การท่องเที่ยวภายในประเทศจึงทำได้ง่ายและสะดวกสบาย คุณก็สามารถเข้าถึงและเลือกใช้บริการตามต้องการได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ
การเดินทางมา
[edit | edit source]การเดินทางมาที่ประเทศไทยผู้ที่ถือหนังสือเดินทางของประเทศแถบตะวันตก และในทวีปเอเชียหลายประเทศ เช่น แคนาดา สหภาพยุโรป รัสเซีย สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ฮ่องกง ญี่ปุ่น และ เกือบๆทุกประเทศในกลุ่มประเทศอาเซียน ไม่ต้องใช้วีซ่าในการเข้ามาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศไทยทางอากาศจะได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศได้นาน 15 หรือ 30 วัน ขึ้นอยู่กับสัญชาติ การตรวจลงตรา ให้วีซ่าที่หน้าด่านตรวจคนเข้าเมือง มีให้บริการกับผู้ที่มาจากจีน และ อินเดีย
เครื่องบิน
[edit | edit source]ประเทศไทยมีสายการบินจากทั่วโลกแวะลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมืองและท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิเป็นจำนวนมาก โดยคุณสามารถมาที่ประเทศไทยได้โดยสายการบินประจำชาติไทย คือ การบินไทย และ บางกอก แอร์เวย์ ซึ่งได้รับอนุญาตให้ดำเนินการบินทั้งจากประเทศไทย หรือจะบินจากต่างประเทศเข้ามาประเทศไทยดำเนินการโดย ไฮ ฟลายอิ้ง กรุ๊ป นอกจากนี้สายการบินต้นทุนต่ำก็มีให้บริการอยู่มากมาย
รถยนต์
[edit | edit source]ประเทศไทยมีถนนเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านของประเทศไทย ซึ่งคุณสามารถมาตามถนนได้ที่ ประเทศกัมพูชา มีไฮเวย์ที่ตั้งต้นจาก เสียมเรียบ และ นครวัด ผ่านปอยเปต เข้ามาสู่ อ.อรัญประเทศของประเทศไทย โดยสามารถเดินทางถึงกันได้ภายใน 3 ชั่วโมง และประเทศลาว มีสะพานสะพานมิตรภาพที่เชื่อมต่อระหว่างประเทศไทย ซึ่งเป็นเขตชายแดนที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุด สะพานนี้เป็นสะพานข้ามแม่น้ำโขง นอกจากนี้ การเดินทางข้ามแม่น้ำโขงยังสามารถข้ามได้ที่ เชียงของ, นครพนม, ท่าแขก, มุกดาหาร, ห้วยทราย และ สุวรรณเขต มีการเดินรถประจำทางจาก เวียงจันทร์ มาที่ จังหวัดอุดรธานี ด้วย โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังสามารถขับรถเข้ามาประเทศไทยได้จากประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ โดยผ่านมาทาง ปาดังเบซาร์, อำเภอสะเดา, เบตง และ สุไหงโกลก ซึ่งมีรถประจำทางวิ่งประจำอีกด้วย จากประเทศพม่า จะเข้ามาประเทศไทยได้ 4 เส้นทาง ที่อ.แม่สาย สามารถเดินทางไปมาหากันได้ ที่อำเภอแม่สอด และ พระปรางค์สามยอด จะสามารถข้ามจากไทยไปพม่าได้เท่านั้น และที่ จ.ระนอง สามารถข้ามได้ทั้ง 2 ฝั่ง
เรือข้ามฝั่ง
[edit | edit source]ประเทศไทยมีเรือข้ามฝั่งจากจังงหวัดสตูล ทางภาคใต้ของไทยไปยัง เกาะลังกาวี ของประเทศมาเลเซียก็มีให้บริการ บริการเรืออื่นๆ ได้แก่ บริการเดินเรือจาก อำเภอตากใบ ไปที่ เพงกาลัน คูเบอร์ นอกจากนี้ยังมี เรือหรูหราของสตาร์ ครู๊ซ ซึ่งเดินทางจากประเทศสิงคโปร์ และประเทศมาเลเซีย มาสู่ภูเก็ต และกรุงเทพมหานคร
รถไฟ
[edit | edit source]ประเทศไทยมีบริการเดินรถไฟข้ามประเทศ โดยเชื่อมต่อกับบัตเตอร์เวิร์ธ ใกล้ๆกับ ปีนัง, กัวลาลัมเปอร์ ในประเทศมาเลเซีย ไปยังประเทศสิงคโปร์ รถไฟจะราคาถูกแต่ใช้เวลานานกว่าเครื่องบินมาก บริการรถด่วน อีสเทอร์น แอนด์ โฮเรียลทอล เป็นขบวนรถไฟที่ตกแต่งอย่างหรูหรา และออกเดินทางอาทิตย์ละ 1 เที่ยวก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เขตชายแดนอื่นๆที่มีคือ หนองคาย และ อรัญประเทศ ซึ่งมีบริการรถประจำทางเดินทางจากชายแดนประเทศไทยไปยังประเทศลาว และประเทศกัมพูชา
การเดินทางในประเทศ
[edit | edit source]เครื่องบิน
[edit | edit source]คุณสามารถจองตั๋วเครื่องบินมาที่ประเทศไทยหรือท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ นอกจากนี้ประเทศไทยมีท่าอากาศยานรองรับเที่ยวบินต่างๆ เป็นจำนวนมากทั่วประเทศ เช่น ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงราย ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี และท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ เป็นต้น โดยเมื่อคุณลงจากเครื่องบินแล้ว ก็ยังมีบริการรถบริการรับส่งสนามบิน หน้าสนามบินหลักๆ เพื่อจะเดินทางเข้าไปยังตัวเมือง โดยแบ่งเป็นเส้นทางต่างๆ
รถยนต์
[edit | edit source]การขับรถไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ ในประเทศไทยด้วยตัวเองได้รับความนิยม เพราะถนนหนทางมีสภาพดีขึ้น และง่ายต่อการขับขี่ นอกจากใช้ในชีวิตประจำวัน ยังสามารถพาสมาชิกในครอบครัวออกไปพักผ่อนในแหล่งท่องเที่ยวที่งดงามได้อย่างสะดวกสบาย สำหรับเส้นทางที่ใช้ในการขับรถเที่ยว ปัจจุบันมีทั้งใกล้และไกล มีทั้งแบบขับบนเส้นทางง่ายๆ ไม่ต้องใช้ทักษะอะไรมาก เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน ไปจนถึงเส้นทางเข้าป่าเขาทุรกันดาร เหมาะสำหรับรถ 4WD และผู้ขับที่มีทักษะสูง รักการผจญภัย
รถไฟ
[edit | edit source]คุณสามารถเดินทางในประเทศไทย โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงเทพมหานคร แยกเป็นเส้นทางต่างๆ ดังนี้
- ทางสายเหนือ ถึงสถานีจังหวัดเชียงใหม่ ระยะทาง 751 กิโลเมตร
- ทางสายใต้ ถึงสถานีสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ระยะทาง 1,143 กิโลเมตร และสถานีปาดังเบซาร์ มาเลเซีย ระยะทาง 974 กิโลเมตร
- ทางสายตะวันออก ถึงสถานีอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ระยะทาง 255 กิโลเมตร และสถานีนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ระยะทาง 200 กิโลเมตร
- ทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ ถึงสถานีอุบลราชธานี ระยะทาง 575 กิโลเมตร และสถานีท่านาแล้ง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระยะทาง 626.5 กิโลเมตร
- ทางสายตะวันตก ถึงสถานีน้ำตก จังหวัดกาญจนบุรี ระยะทาง 194 กิโลเมตร
- ทางสายแม่กลอง ช่วงวงเวียนใหญ่-มหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร ระยะทาง 31 กิโลเมตร และช่วงบ้านแหลม-แม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม ระยะทาง 34 กิโลเมตร
คุณสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทางและราคาตั๋วโดยสารของการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง หรือทางเว็บไซต์ https://web.archive.org/web/20061010104943/http://www.railway.co.th/English/network.asp และจองตั๋วรถไฟก่อนวันเดินทางไม่น้อยกว่า 3 วัน ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2220-4444 ทุกวัน เวลา 08.30-16.30
รถประจำทาง
[edit | edit source]ถ้าคุณต้องการการเดินทางไปยังภูมิภาคต่างๆ ในประเทศไทย โดยเดินทางโดยรถประจำทางของไทยนั้น มีจุดขึ้นรถโดยสารหลักอยู่ที่กรุงเทพฯ คือ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 สำหรับเส้นทางสายเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันออก สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (ถนนบรมราชชนนี) หรือสายใต้ สำหรับเส้นทางสายใต้และตะวันตก และสถานีขนส่งเอกมัย ถนนสุขุมวิท สำหรับเส้นทางสายตะวันออก นอกจากนี้ยังมีจุดจอดรถของบริษัท ขนส่ง จำกัด และบริษัทเอกชนอื่นๆ อยู่ในเมืองต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาค
รถโดยสารประจำทางส่วนมากเป็นรถบัสปรับอากาศขนาดใหญ่ ทั้งชั้นเดียวและสองชั้น แต่ในบางเส้นทางที่มีระยะทางไม่ไกลนัก เช่น จังหวัดใกล้ๆ กรุงเทพฯ จะมีบริการรถตู้โดยสารของบริษัทเอกชนจอดให้บริการตามจุดต่างๆ ของกรุงเทพฯ ด้วย และในเขตจังหวัดต่างๆ นอกเขตกรุงเทพฯ ยังมีบริการรถโดยสารประจำทางของบริษัทเอกชนต่างๆ ทั้งรถปรับอากาศและรถไม่ปรับอากาศ และรถโดยสารชนิดอื่นๆ เช่น รถตู้ รถสองแถว ให้บริการเป็นจำนวนมากด้วย
คุณสามารถสอบถามเส้นทาง ตารางเวลาการเดินรถ และราคาตั๋วโดยสารของบริษัท ขนส่ง จำกัด ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1490 หรือทางเว็บไซต์ http://www.transport.co.th ส่วนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีรถโดยสารประจำทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และรถร่วมบริการ ทั้งรถบัสและรถตู้ ให้บริการตั้งแต่เวลา 04.00-23.00 น. และบางสายให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ติดต่อสอบถามเส้นทางการเดินรถได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 184 หรือ ทางเว็บไซต์ https://web.archive.org/web/20140912012401/http://www.bmta.co.th/
ตุ๊กตุ๊ก
[edit | edit source]บริการสามล้อตุ๊กตุ๊กมีบริการทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่ เป็นที่นิยมทั้งในหมู่คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว เพราะมีขนาดเล็ก ขับขี่ง่าย เคลื่อนตัวสะดวก ประหยัดเชื้อเพลิง และบรรทุกของได้มากกว่ามอเตอร์ไซค์ ทั้งราคาค่าบริการก็ไม่แพง
อื่นๆ
[edit | edit source]นอกจากนี้ การเดินทางอื่นๆ ในประเทศไทยนั้น ยังมีการนั่งเรือ รถจักรยานยนตร์ และรถจักรยาน โดยสามารถเช่าตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ส่วนเดินทางในกรุงเทพมหานครนั้น สามารถใช้รถไฟฟ้า BTS หรือรถไฟฟ้าความเร็วสูง ตามความสะดวก
ท่องเที่ยว
[edit | edit source]แหล่งท่องเที่ยวมีอยู่อย่างหลากหลายในประเทศไทย ตั้งแต่แหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม เช่น พิพิธภัณฑ์ อนุสาวรีย์ ศูนย์ศิลปะ ฯลฯ ที่บ่งบอกถึงความเป็นชาติที่สร้างสมวัฒนธรรมอันดีงามมายาวนาน แหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนา เช่น วัดวาอาราม มัสยิด โบสถ์คริสต์ สะท้อนถึงศรัทธาในศาสนา ซึ่งแม้จะแตกต่าง แต่คนไทยก็อยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน สำหรับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาตินั้น นับเป็นทรัพยากรล้ำค่าเลยทีเดียว เพราะหาดทราย ชายทะเล เกาะแก่ง โถงถ้ำ น้ำตก ขุนเขา และผืนป่า รวมถึงสรรพชีวิตนานา คือภาพรวมที่ฉายชัดให้เห็นว่า เมืองไทยนั้นอุดมสมบูรณ์เพียงใด ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอันเนื่องมาจากโครงการในพระราชดำริที่กระจายอยู่ทั่วเมืองไทย แสดงให้เห็นถึงน้ำพระราชหฤทัยของพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ในการโอบอุ้มดูแลพสกนิกรและพื้นที่ให้อยู่เย็นเป็นสุข และอีกหลากหลายแหล่งท่องเที่ยวที่น่าไปเยือน ทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ย่านจับจ่ายสินค้า ฯลฯ
แหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม
[edit | edit source]แหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของสถานที่ต่างๆ รวมทั้งเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินชมความงามของแหล่งธรรมชาติและวิถีชีวิตที่ถูกถ่ายทอดเป็นงานศิลปะจัดแสดงไว้ตามแกลเลอรี
ในประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปะ วัฒนธรรม อยู่มากมาย เพราะประเทศไทยมีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน จนถึงวันนี้ ร่องรอยของความรุ่งเรืองในวันเก่าก่อนยังคงปรากฏตกทอดอยู่ตามสถานที่สำคัญหลายแห่ง ซึ่งบางแห่งได้รับคัดเลือกให้เป็นแหล่งมรดกโลกที่คนไทยภาคภูมิใจ
กิจกรรมในแหล่งท่องเที่ยวประเภทนี้คือการเรียนรู้ที่ได้รับความเพลิดเพลินไปพร้อมๆ กัน นับว่าเป็นการพักผ่อนหย่อนใจที่ได้ประโยชน์ในแง่ของสมองและจิตใจเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว
แนะนำ
[edit | edit source]- พระบรมมหาราชวัง เป็นหรือพระราชวังพระนคร เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์สมัยรัตนโกสินทร์ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30–16.00 น. (ห้องจำหบ่ายบัตรเข้าชม ปิดเวลา 15.30 น.) ค่าเข้าชม ชาวไทยไม่เสียค่าเข้าชม ส่วนชาวต่างชาติค่าเข้าชมท่านละ 400 บาท (โปรดแต่งกายสุภาพ ผู้หญิงสวมกระโปรงสุภาพ) ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่เบอร์โทรศัพท์ 0 2623 5500 ต่อ 3100 หรือ 0 2224 3273 หรือทางเว็บไซต์ http://www.palaces.thai.net/
- พระที่นั่งอนันตสมาคม เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการถาวรในปัจจุบัน โดยในสมัยก่อนเป็นที่รับรองแขกเมืองและประชุมปรึกษาราชการแผ่นดิน ในรัชกาลที่ 5 เปิดให้เข้าชมวันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 10.00-18.00 น. (ปิดขายบัตร 17.00 น. โปรดแต่งกายสุภาพ ผู้หญิงสวมกระโปรงสุภาพ) ปิดวันจันทร์ วันปีใหม่ วันสงกรานต์ ค่าเข้าชม 150 บาท เด็ก 75 บาท ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่เบอร์โทรศัพท์ 0-2283-9411
- อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ของไทยสมัยเริ่มสร้างอาณาจักรที่ยังหลงเหลืออยู่ โดยได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก โดยเดินทางจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันตกประมาณ 12 กิโลเมตร หรือนั่งรถประจำทางหรือรถท้องถิ่น (คอกหมู) ของสุโขทัยได้ที่สถานีขนส่งสุโขทัย หรือจากท่ารถในตัวเมืองสุโขทัย ห่างจากสะพานข้ามแม่น้ำยมไปราว 200 เมตร นั่งรถสองแถวสายเมืองเก่าออกทุก 20 นาที เวลา 06.00 - 18.00 น. ค่าเข้าชม นักท่องเที่ยวชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท ในกรณีที่นำยานพาหนะเข้าเขตโบราณสถานต้องเสียค่าธรรมเนียมอีกด้วย และที่บริเวณลานจอดรถของอุทยานฯ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวจัดบริการ รถราง นำชมรอบ ๆ อุทยานฯ ค่าบริการ นักท่องเที่ยว ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 40 บาท นอกจากนั้นที่บริเวณด้านหน้าอุทยาน มีบริการรถจักรยานให้เช่าอุทยาน เปิดทุกวัน เวลา 06.00-21.00 น. (ปิดจำหน่ายบัตรเวลา 18.00 น.) ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่เบอร์โทรศัพท์ 0-5569-7527, 0-5569-7241
- ศูนย์ศิลปะการแสดงกาดสวนแก้ว เป็นศูนย์การแสดงละครทั้งของไทยและต่างประเทศ เปิดทำการเวลา 10.00 - 22.00 ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่เบอร์โทรศัพท์ โทร. 66 5322 4333 ต่อ กาดศิลป์ หรือเว็บไซต์ https://web.archive.org/web/20130326043045/http://www.kadsuankaew.co.th/
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป เป็นศูนย์รวบรวมและจัดแสดงผลงานศิลปะทั้งแบบประเพณีไทยโบราณ แบบสากลร่วมสมัยของศิลปินที่มีชื่อเสียงของไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน และยังมีภาพเขียนสีน้ำมันฝีพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ติดตั้งแสดงอยู่ด้วย โดยในอดีตเป็นโรงผลิตเหรียญกษาปณ์ของไทย เปิดให้เข้าชมทุกวันพุธ-อาทิตย์ ปิดวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 200 บาท ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่เบอร์โทรศัพท์ 0 2281 2224 และ 0 2282 2639-40
แหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนา
[edit | edit source]ประเทศไทยมีคนนับถือศาสนาหลายศาสนา ซึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาที่แตกต่างกัน ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่น้อยกว่าแหล่งท่องเที่ยวประเภทอื่น
ทั่วทุกภาคของแผ่นดินไทยมีวัดวาอาราม โบสถ์ และมัสยิดตั้งอยู่ด้วยความศรัทธาของผู้คน ทั้งเพื่อเป็นสถานที่สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน มีทั้งวัด โบสถ์ มัสยิดเก่าแก่ อายุนับร้อยปี ซึ่งงามตาด้วยศิลปะสถาปัตยกรรมในยุคต่างๆ บางแห่งมีตำนานเรื่องเล่าที่น่าทึ่งเสริมเข้าไปอีกด้วย สำหรับวัด โบสถ์ มัสยิดที่เพิ่งก่อสร้างในยุคหลังๆ นี้ ก็มีความงดงามด้วยรูปแบบศิลปะสถาปัตยกรรมร่วมสมัย
แนะนำ
[edit | edit source]- วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ได้เล่าเรียนพระปริยัติธรรม และยังเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทย เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 18.00 น.ค่าเข้าชมสำหรับชาวต่างชาติคนละ 100 บาท ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่เบอร์โทรศัพท์ 0-2226-0335 และ 0-2226-0369 หรือทางเว็บไซต์ https://web.archive.org/web/20091125072156/http://www.watpho.com/
- โบสถ์วัดโรมันคาทอลิก เป็นขนาดใหญ่ที่มีความเก่าแก่และกล่าวกันว่ามีความงดงามมากที่สุดในประเทศไทย สามารถเดินทางเข้ามาจันทบุรี แล้วต่อถนนทางเดียวกับวัดไผ่ล้อม เมื่อถึงวัดไผ่ล้อมแล้วเดินทางต่อไปอีกราว 1 กิโลเมตร หรือจากตัวเมืองเดินทางข้ามสะพานวัดจันท์ไปตามถนนจันทนิมิตรจะพบทางแยกขวาไปโบสถ์คาทอลิก เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-16.30 น. การเข้าชมเป็นหมู่คณะควรติดต่อล่วงหน้า ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่เบอร์โทรศัพท์ 0-3931-1578
- มัสยิดกลางปัตตานี เป็นศูนย์กลางในการประกอบศาสนกิจของชาวไทยมุสลิมในภาคใต้ เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกมีรูปทรงคล้ายกับทัชมาฮาลของอินเดีย เดินทางมาตามริมถนนสายปัตตานี-ยะลา (ทางหลวง หมายเลข 410) หรือจากถนนพิพิธแล้วเลี้ยวขวา ไปตามถนนไปจังหวัดยะลา ระยะทางประมาณ 500 เมตร จะเห็นมัสยิด เปิดทำการเวลา 08.00 - 18.00 ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่เบอร์โทรศัพท์ 0-7333-2402
- ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร เป็นศาลที่สร้างขึ้นมาพร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี ตามธรรมเนียมพิธีพราหมณ์ว่า ก่อนที่จะสร้างเมืองจะต้องทำพิธียกเสาหลักเมืองในที่อันเป็นชัยภูมิสำคัญ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านเมืองที่จะสร้างขึ้น ตั้งอยู่บริเวณมุมด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของท้องสนามหลวง ตรงข้ามพระบรมมหาราชวัง ถนนหลักเมือง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เปิดทำการเวลา 07.00 - 18.00
แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ
[edit | edit source]แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาตินับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นของประเทศไทย เพราะประเทศไทยมีแหล่งธรรมชาติที่งดงามหลากหลายประเภท ตั้งแต่ภูเขา ผืนป่า น้ำตก หาดทราย ชายทะเล หมู่เกาะ โถงถ้ำ ทะเลสาบ ทุ่งดอกไม้ น้ำพุร้อน ฯลฯ ซึ่งอุดมสมบูรณ์ด้วยสรรพชีวิตที่อาศัยอยู่ในแหล่งธรรมชาตินั้นๆ
การมีแหล่งธรรมชาติหลายประเภทนับเป็นข้อได้เปรียบของเมืองไทย เพราะนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปชื่นชมความงามของเมืองไทยได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะเมื่อเลือกเดินทางในช่วงเวลาที่เหมาะสม ก็จะได้ชมความงามและเรียนรู้เรื่องราวของธรรมชาติได้อย่างสนุก มีความสุข และปลอดภัย
แนะนำ
[edit | edit source]- อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ 4 จังหวัด 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอมวกเหล็ก อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี อำเภอปากช่อง อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา อำเภอนาดี อำเภอกบินทร์บุรี อำเภอประจันตคาม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี และอำเภอปากพลี อำเภอบ้านนา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก เดินทางสู่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไปได้หลายทาง สายที่ 1 ถนนพหลโยธินผ่านรังสิตถึงสระบุรี เลี้ยวขวาเข้าถนนมิตรภาพผ่านมวกเหล็กไปทางอำเภอปากช่อง ก่อนถึงอำเภอปากช่องเลี้ยวเข้าถนนธนรัตน์ ระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 205 กิโลเมตร สายที่ 2 ถนนพหลโยธินผ่านรังสิต ผ่านหนองแค เลี้ยวขวาสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 305 (สุวรรณศร)ที่หินกอง ผ่านตัวเมืองนครนายกถึงสี่แยกเนินหอม หรือวงเวียนนเรศวร ก่อนเข้าตัวเมืองปราจีนบุรีเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนปราจีนบุรี-เขาใหญ่ รวมระยะทางประมาณ 190 กิโลเมตร และสายที่ 3 ถนนพหลโยธิน เลี้ยวขวาบริเวณรังสิต เข้าสู่ทางหลวงสายรังสิต-องค์รักษ์ และสายองค์รักษ์-นครนายก บรรจบกับเส้นทางสายที่ 2 แล้วเดินทางต่อตามเส้นทางสายที่ 2 เปิดทำการทุกวัน เวลา 08.00 - 17.00 ค่าเข้าขม ชาวไทยเด็ก 20 บาท ผู้ใหญ่ 40 บาท ชาวต่างประเทศเด็ก 200 บาท ผู้ใหญ่ 400 บาท รถ 50 บาท รถบัส 200 บาท รถจักรยานยนต์ 20 บาท มีที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก บริเวณผากล้วยไม้จัดเป็นสถานที่ตั้งเต็นท์พักแรมมีร้านค้าสวัสดิการขายอาหาร และมีเต็นท์และเครื่องนอนให้เช่านอกจากนั้นยังมีค่ายพักบริการอีก 2 แห่งคือ ค่ายพักกองแก้ว และค่ายพักเยาวชน สำหรับการจองบ้านพัก ติดต่อโดยตรงที่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เบอร์โทรศัพท์ 0-2562-0760-2 หรือจองบ้านพักผ่านทางเว็บไซต์ https://web.archive.org/web/20120407194715/http://www.dnp.go.th/ แต่ทางอุทยานมีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ วันละ 2,000 คน ดังนั้นผู้ประสงค์จะเข้าไปเที่ยวในอุทยาน กรุณาสอบถามหรือติดต่อล่วงหน้าที่ โทร. 0-3736-5033, 08-1877-3127 และ 08-6092-6531 (ตลอด 24 ชั่วโมง) และเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและไม่เป็นการรบกวนการดำรงชีวิตสัตว์ป่า โดยห้ามนำสัตว์เลี้ยงขึ้นไปบนอุทยาน และห้ามรถยนต์ขนาดมากกว่า 40 ที่นั่ง รถสองชั้นหรือมีความสูง 3.50 เมตร ขึ้น – ลงเส้นทางระหว่างด่านศาลเจ้าพ่อ อำเภอปากช่อง ถึงที่ทำการอุทยาน สำหรับการขึ้น –ลง เส้นทางระหว่างด่านเนินหอม อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ถึงที่ทำการอุทยาน ห้ามขึ้น – ลง ระหว่างเวลา 16.00 – 06.00 น.
- อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศด้วยความสูง 2,565 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เดินทางได้ 3 วิธี วิธีแรกเดินทางโดยรถประจำทางปรับอากาศสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ออกจากสถานีขนส่งสายเหนือ ถนนกำแพงเพชร 2 ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดได้ที่บริษัทขนส่ง จำกัด โทรศัพท์ 0-2537-8055 และที่เชียงใหม่ โทรศัพท์ 66-5324-1449, 66-5324-2664 วิธีที่สองเดินทางโดยรถไฟด่วนและรถไฟเร็ว ออกจากสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ทุกวัน สอบถามรายละเอียดได้ที่หน่วยบริการเดินทาง การรถไฟแห่งประเทศไทย เบอร์โทรศัพท์ 66-223-7010 หรือ สถานีรถไฟเชียงใหม่ เบอร์โทรศัพท์ 66-2223-7020 และวิธีที่สามเดินทางโดยรถยนตร์จากกรุงเทพมหานคร ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 32 (สายเอเชีย) ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง นครสวรรค์ หลังจากนั้นช้ทางหลวงหมายเลข 117 ไปยังพิษณุโลก ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 11 ผ่านลำปาง ลำพูน ถึงเชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 695 กิโลเมตร อีกทางหนึ่งก็คือจากนครสวรรค์ ไปตามทางหลวงหมายเลข 1 ผ่านกำแพงเพชร ตาก และลำปาง ถึงเชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 695 กิโลเมตร เปิดทำการทุกวัน เวลา 06.00 - 18.00 ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่เบอร์โทรศัพท์ 66-5326-8550 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเบอร์โทรศัพท์ 66-5326-8577 ระหว่างเวลา 08.00-17.00 น.
- ดอยแม่สลอง เป็นดอยชุมชนผู้อพยพจากกองพล 93 จากประเทศพม่าเข้ามาในประเทศไทย และในเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ ดอกนางพญาเสือโคร่ง จะผลิดอก ซึ่งหาชมได้ยาก เพราะเจริญเติบโตอยู่แต่เฉพาะในภูมิอากาศหนาวจัดเท่านั้น เดินทางมาโดยรถยนต์ใช้เส้นทางเชียงราย-แม่จัน 28 กิโลเมตร เลยจากอำเภอแม่จันไป 1 กิโลเมตร มีทางแยกซ้ายไป 23 กิโลเมตร ผ่านหมู่บ้านผาเดื่อ ซึ่งเป็นจุดแวะชมและซื้อหัตถกรรมชาวเขา จากนั้นเดินทางจากบ้านอีก้อสามแยก (ทางขวาไปหมู่บ้านเทิดไทย) ตรงไปดอยแม่สลอง ระยะทาง 10 กิโลเมตร รวมระยะทางจากเชียงราย 64 กิโลเมตร เป็นทางลาดยางตลอดสาย และจากดอยแม่สลองมีถนนเชื่อมต่อไปถึงบ้านท่าตอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ระยะทาง 45 กิโลเมตร ในกรณีไม่ได้ขับรถมาเองให้ขึ้นรถประจำทางจากตัวเมืองเชียงรายไปต่อรถสองแถวที่ปากทางขึ้นดอยแม่สลอง เบอร์โทรศัพย์ 08-1024-0813 (ค่ารถคนละ 50 บาท เหมา 400 บาท ไป-กลับ 800 บาท) เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. ค่าเข้าชม 30 บาท ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่เบอร์โทรศัพท์ 0-5376-5170, 0-5376-5180 ศูนย์ประสานงานนำเที่ยวชุมชุน HOMESTAY และกางเต็นท์ เบอร์โทรศัพท์ 0-5371 0024, 08-5038-6362 อบต. แม่สลองนอก เบอร์โทรศัพท์ 0-5376-5129
- วนอุทยานภูชี้ฟ้า เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น มีลักษณะเป็นยอดเขาที่แหลมชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า เดินทางโดยสถานีขนส่งเชียงราย รถออกเวลา 07.00 และ 13.00 น.(เฉพาะฤดูหนาว) รถตู้ จากสถานีขนส่งเชียงราย วันละ 2 เที่ยว เวลา 07.00 น. และ 13.00 น. ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่เบอร์โทรศัพท์ สถานีขนส่งเชียงราย โทร. 0-5371-1224 อบต.ตับเต่า เบอร์โทรศัพท์ 0-5318-9111, 08-1724-0052, 08-6189-4611 วนอุทยานภูชี้ฟ้า เบอร์โทรศัพท์ 08-1883-4510
- แหลมพรหมเทพ เป็นจุดชมวิวที่สวยงามของภูเก็ต และแหลมที่อยู่ตอนใต้สุดของเกาะภูเก็ต เดินทางมาหาดดราไวย์ และเดินไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร เปิดทำการเวลา 06.00 - 19.00
- อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด อุทยานแห่งชาติประเภทชายฝั่งผสมผสานหมู่เกาะในทะเลแห่งแรกของไทย เดินทางได้ 3 วิธี วิธีแรกเดินทางโดยรถยนต์จากถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข ๔) ถึงสี่แยกปราณบุรีเลี้ยวซ้ายไปตามถนนสายปราณบุรี-ปากน้ำปราณบุรีประมาณ ๘ กิโลเมตร จึงเลี้ยวขวาไปประมาณ ๑๖ กิโลเมตร ผ่านสี่แยกบ้านบางปู ตรงไป ๔ กิโลเมตร ถึงสามแยกเลี้ยวซ้ายอีกครั้งไปอีก ๕ กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานฯ หรือ จากถนนเพชรเกษม จนถึงหลักกิโลเมตรที่ ๒๘๖ (ใกล้บ้านสำโหรง ก่อนถึงอำเภอกุยบุรี ๖ กิโลเมตร) เลี้ยวซ้ายไปอีกประมาณ ๑๔ กิโลเมตรก็จะถึงที่ทำการอุทยาน วิธีที่สอง เดินทางโดยรถประจำทางโดยลงรถที่อำเภอปราณบุรี แล้วต่อรถสองแถวสายปราณบุรี-บ้านบางปู จากบ้านบางปูเหมารถสองแถวไปส่งที่ทำการอุทยาน และวิธีที่สามเดินทางโดยขบวนรถไฟธนบุรี-ประจวบคีรีขันธ์ หรือ ธนบุรี-หลังสวน ลงรถที่สถานีรถไฟสามร้อยยอด ต่อรถสองแถวสายปราณบุรี-บ้านบางปู (ขึ้นรถได้ที่หน้าสถานีรถไฟ) เมื่อถึงบ้านบางปูหารถเช่าไปอุทยาน เปิดทำการในวันจันทร์ - วันอาทิตย์ เวลา 08.30 - 17.00 ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่เบอร์โทรศัพท์ 032-821-568
- อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่มีลักษณะสวยงามตามธรรมชาติ รอบ ๆ เกาะมีปะการัง กัลปังหา ทิวทัศน์ใต้ทะเลที่งดงาม เดินทางโดยรถยนต์ การเดินทางจากกรุงเทพ ฯ ไปจังหวัดกระบี่ มีระยะทางประมาณ 946 กิโลเมตร โดยใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 ผ่าน จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา กระบี่ หรือถ้าไปอีกเส้นทางหนึ่งก็ได้ ซึ่งจะมีระยะทางที่ใกล้กว่าคือประมาณ 814 กิโลเมตรคือ สามารถใช้เส้นทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 4 จากกรุงเทพฯ ผ่าน จ.ชุมพร แล้วให้เลี้ยวเข้าไปใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41 ผ่าน อ.หลังสวน อ.ไชยา อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี จากนั้นให้เลี้ยวเข้าไปใช้เส้นทางหลวงจังหวัด หมายเลข 4035 พอผ่าน อ.อ่าวลึก แล้วให้กลับเข้ามาใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 อีกครั้งก็จะเข้าสู่ จ.กระบี่ พอถึงจังหวัดกระบี่แล้ว ก็วิ่งไปตามถนนสายในเมือง-ในสระ จะใช้ระยะทางอีกประมาณ 18 กม.ก็ถึงหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี หลังจากนั้นก็ให้ใช้เส้นทางเลียบชายทะเล ไปทางทิศใต้ระยะทางประมาณ 6 กม. เปิดทำการทุกวัน ทุกเวลา
แหล่งท่องเที่ยวเชิงวิชาการ
[edit | edit source]ประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงวิชาการสำหรับผู้ที่สนใจใฝ่หาความรู้เป็นจำนวนมาก อาทิ ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษา ศูนย์ฝึกอบรม เป็นต้น เหมาะสำหรับนักเรียนนักศึกษา หรือผู้ที่สนใจทั่วไป
แนะนำ
[edit | edit source]- อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของวงการวิทยาศาสตร์ไทยเดินทางได้ 3 วิธี วิธีแรกเดินทางโดยรถประจำทางที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี (ถนนบรมราชชนนี) มีบริการรถโดยสารสายกรุงเทพฯ - ประจวบคีรีขันธ์ เป็นประจำทุกวัน โดยสามารถเลือกเดินทางได้ทั้งรถโดยสารปรับอากาศชั้น 1 และรถโดยสารปรับอากาศชั้น 2 สอบถามรายละเอียดได้ที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เบอร์โทรศัพท์ 0-2434-7192 หรือ 0-2435-1195 แล้วเดินทางต่อไปยังอุทยาน โดยรถจักรยานยนต์รับจ้าง วิธีที่สองเดินทางโดยรถไฟจากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) หรือสถานีรถไฟธนบุรี (บางกอกน้อย) โดยมีบริการรถไฟไปสถานีรถไฟประจวบคีรีขันธ์ แล้วเดินทางไปโดยรถจักรยานยนต์รับจ้าง วิธีที่สามเดิรทางโดยรถยนตร์ 2 เส้นทาง เส้นทางแรก จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางสายธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35) ผ่านจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่านจังหวัดเพชรบุรี เข้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่วนเส้นทางที่สอง จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางสายปิ่นเกล้า -นครชัยศรี (ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่านพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี เข้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดทำการทุกวัน เวลา 09.00 - 16.00 ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่เบอร์โทรศัพท์ 0-3266-1098, 0-3266-1726-7 ต่อ 247 หรือโทรสาร 0-3266-1727
- ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร เป็นที่รวบรวมข้อมูลทางด้านมานุษยวิทยาและศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง เช่น สังคมวิทยา โบราณคดี ประวัติศาสตร์ศิลปะ ภาษา และวรรณกรรม เป็นแหล่งค้นคว้าศึกษา และให้บริการข้อมูลทางด้านมานุษยวิทยา นิทรรศการเปิดให้เข้าชมวันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00–16.00 น. ห้องสมุดเปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 08.00-16.00 น. สำนักงานเปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00–17.00 น. ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่เบอร์โทรศัพท์ โทร. 0-2880-9429 หรือทางเว็บไซต์ http://www.sac.or.th
- พิพิธภัณฑ์วังวรดิศ และหอสมุดดำรงราชานุภาพ เป็น พระตำหนักที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และหอสมุดรวมหนังสือส่วนพระองค์ ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ซึ่งมีกว่า 7,000 เล่ม รวมทั้งหนังสือวารสาร หนังสือพิมพ์และหนังสือวิชาการเน้นด้านประวัติศาสตร์โบราณคดี เปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30–16.30 น. ปิดวันเสาร์ อาทิตย์และวันหยุดราชการ ไม่เสียค่าเข้าชม (ใช้เวลาในการชมประมาณ 3 ชั่วโมง) ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่เบอร์โทรศัพท์ 0-2280-3150, 0-2282-9110, 0-2281-7577, 0-2223-8661 หรือโทรสาร 0-2282-9110 หรือทางเว็บไซต์ http://www.prince-damrong.moi.go.th/
แหล่งท่องเที่ยวเชิงสันทนาการและบันเทิง
[edit | edit source]แหล่งท่องเที่ยวเชิงสันทนาการและบันเทิงคือการปลดเปลื้องความเครียดได้อย่างดียิ่ง สถานที่ท่องเที่ยวประเภทนี้มีอยู่มากมายในกรุงเทพฯ และตามเมืองใหญ่ มีข้อดีที่สุดคือใช้เวลาและงบประมาณไม่มากนัก อีกทั้งยังมีหลายรูปแบบให้เลือกตามรสนิยม ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬา ชมการแข่งขัน เที่ยวสวนสัตว์ กลับไปเป็นเด็กในสวนสนุก ดูหนัง ดูละคร ไปจนถึงการสูดอากาศบริสุทธิ์ในสวนอันร่มรื่น
แนะนำ
[edit | edit source]- ฟาร์มโชคชัย เป็นฟาร์มโคนมที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในฟาร์มที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย ตั้งอยู่บนถนนมิตรภาพ-ปากช่อง กิโลเมตรที่ 159-160 เปิดทำการวันวันอังคาร - วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00 - 16.00 ค่าเข้าชม วันอังคาร – วันศุกร์ ผู้ใหญ่ 235 บาท เด็ก 115 บาท วันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ผู้ใหญ่ 250 บาท เด็ก 125 บาท ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่เบอร์โทรศัพท์ 0-4432-8386, 0-4432-8485 หรือทางเว็บไซต์ http://www.farmchokchai.com
- ท้องสนามหลวง เป็นสนามขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ด้านหน้าวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ระหว่างพระบรมมหาราชวังกับพระราชวังบวรสถานมงคล อนุญาตให้ประชาชนเข้าไปใช้พื้นที่เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ และสันทนาการตามปกติ แต่ห้ามนำสินค้าเข้าไปจำหน่าย จอดรถหรืออาศัยเป็นที่หลับนอน ซึ่งสามารถเข้าใช้พื้นที่ได้ ระหว่างเวลา 05.00-22.00 น
- Flow House Bangkok เป็นสถานที่ฝึกเล่นโฟล์วบอร์ดในกรุงเทพมหานคร ค่าบริการราคา 550 บาท ต่อ 1 ชั่วโมง : วันจันทร์-ศุกร์ก่อน 6 โมงเย็น 650 บาท ต่อ 1 ชั่วโมง : วันจันทร์-ศุกร์ หลัง 6 โมงเย็น ส่วนในวันเสาร์-อาทิตย์เล่นได้ทั้งวัน มีบริการสระว่ายน้ำ ห้องอาบน้ำ และมีผู้ฝึกทุกรอบจะมีผู้ฝึกสอนที่ได้รับการอบรมมาอย่างดีคอยควบคุมดูแล
- ไดโนปาร์คมินิกอล์ฟ เป็นสนามมินิกอล์ฟ ขนาด 18 หลุม ในบรรยากาศโลกล้านปี เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00–24.00 น. ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่เบอร์โทรศัพท์ 0-7633-0625
- สวนสัตว์ดุสิต เป็นสวนสัตว์ที่ได้รับพระราชทานนามในนามของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน เดินทางโดยรถประจำทาง 18 28 108 รถกระจำทางปรับอากาศสาย 528 515 539 542 ค่าเข้าชมชาวไทยผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท เด็กชาวต่างชาติ 50 บาท ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่เบอร์โทรศัพท์ 0-2281-2000, 0-2281-9027-8 หรือทางเว็บไซต์ http://www.zoothailand.org/
- อุทยานผีเสื้อและแมลงกรุงเทพฯ เป็นอุทยานที่จัดแสดงผีเสื้อและแมลงต่างๆ เปิดวันอังคาร-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30-16.30 น. ปิดวันจันทร์ ไม่เสียค่าเข้าชม ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่เบอร์โทรศัพท์ 0-2272-4359-60, 0-2272-4680
- สยามโอเชี่ยนเวิลด์ เป็นอุทยานสัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดแสดงสัตว์น้ำจากทั่วโลกกว่า 30,000 ตัว 400 กว่าชนิด รวมทั้งสัตว์น้ำที่หายากของโลก เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-22.00 น. ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 450 บาท เด็ก 280 บาท ติดต่อสอบถามรายละเอียดที บริษัท สยามโอเชี่ยน เวิลด์ จำกัด เบอร์โทรศัพท์ 0-2687-2000 หรือทางเว็บไซต์ https://web.archive.org/web/20090323022530/http://www.siamoceanworld.com/
- สวนสยาม เป็นสวนสนุกที่ประกอบไปด้วยทะเลเทียมน้ำจืด สไลเดอร์ พร้อมด้วยเครื่องเล่นนานาชนิด เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. เดินทางโดยรถประจำทางธรรมดา สาย 60, 71, 115 รถประจำทางปรับอากาศ สาย 60 ปอ.พ. 25 ค่าเข้าชม (สวนน้ำและเครื่องเล่น) คนละ 900 บาท ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่เบอร์โทรศัพท์ 0 2919 7200-19 หรือทางเว็บไซต์ http://www.siamparkcity.com/
- พิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ไทย เป็นพิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ไทย ในอาคารซึ่งเป็นโรงถ่ายภาพยนตร์จำลอง จัดแสดงประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไทย ขบวนการผลิตภาพยนตร์ไทย อุปกรณ์ประกอบฉาก มีการจัดแสดงหุ่นบุคคลสำคัญในวงการหนังไทยทั้งดาราและผู้สร้างหนังเพื่อยกย่องผู้ร่วมบุกเบิกสร้างสรรค์วงการหนังไทยเช่น หุ่นมิตร ชัยบัญชา นักแสดงที่อยู่ในความทรงจำของทุกคน โต๊ะทำงานของปยุต เงากระจ่าง ผู้สร้างภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องแรกของไทย เปิดวันเสาร์ เวลา 13.00-17.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชม ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่เบอร์โทรศัพท์ 0-2482-2013-5, 0-2482-1087-8 (เข้าชมเป็นรอบ ๆละ 15-20 คน)
แหล่งท่องเที่ยวเชิงอื่น
[edit | edit source]โครงการหลวงและโครงการในพระราชดำริ
[edit | edit source]โครงการหลวงและโครงการในพระราชดำริเกิดขึ้นจากพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่ทรงช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่ให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น โดยทรงมุ่งเน้นให้ชาวบ้านมีพื้นที่ทำกินและมีอาชีพที่สามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืน ซึ่งสถานที่อันเป็นที่ตั้งของโครงการหลวงและโครงการในพระราชดำริส่วนใหญ่นั้นมีภูมิทัศน์สวยงาม จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยคุณค่าน่าสนใจ
การเดินทางไปท่องเที่ยวในพื้นที่โครงการหลวงและโครงการในพระราชดำริ นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมความงามของพื้นที่แล้ว ยังจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตเกษตรกรอย่างใกล้ชิด และยังได้กระจายรายได้ด้วยการเลือกซื้อผลิตผลที่สด สะอาด กลับมาอีกด้วย
สปา
[edit | edit source]ในเมืองไทยมีแหล่งท่องเที่ยวแนวสปาเพื่อสุขภาพอยู่มากมาย ทั้งในใจกลางกรุงเทพฯ และตามเมืองใหญ่ ซึ่งมีสปาระดับมาตรฐาน คุณภาพสี่ดาว พรั่งพร้อมด้วยคอร์สดูแลร่างกายสารพันประเภทให้เลือกมากมาย แด่ผู่ที่รักการผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ โดยเน้นการดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ ในแหล่งธรรมชาติบางแห่งก็มีการจัดระบบการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งได้รับรางวัลการันตีคุณภาพมาแล้ว เช่น อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน มีห้องอาบน้ำแร่ร้อนในธรรมชาติที่สวยงามและสะอาดในราคาย่อมเยา
วิถีชีวิต
[edit | edit source]การเดินทางไปเยือนชุมชนและย่านการค้าเก่าแก่คือการท่องเที่ยวที่ได้รับความรื่นรมย์กลับมาได้มากอย่างไม่น่าเชื่อ ในเมืองไทยนั้นมีแหล่งท่องเที่ยวประเภทนี้อยู่หลายแห่ง แต่ละแห่งล้วนมีเอกลักษณ์โดดเด่นที่สั่งสมกันมานานจนกลายเป็นจุดขายที่เข้มแข็ง หลายแห่งเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวไปเยือนแล้วติดอกติดใจ จนต้องเดินทางกลับไปอีกครั้งหรือหลายครั้งโดยไม่รู้เบื่อ
การท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตมีทั้งแบบไปเช้าเย็นกลับ คือ เดินชมหมู่บ้าน พูดคุยกับชาวบ้าน จับจ่ายข้าวของสารพัดชนิดที่ชาวบ้านนำมาขายในราคาน่าซื้อ และแบบค้างคืน ซึ่งจะได้กินอยู่ในชุมชนด้วยรูปแบบโฮมสเตย์ นอกจากได้เรียนรู้วิถีชีวิตอย่างแท้จริงแล้ว ยังเป็นการกระจายรายได้ที่ดีอีกด้วย
ช้อปปิ้ง
[edit | edit source]ประเทศไทยนับเป็นสวรรค์สำหรับนักช้้อปปิ้ง เพราะมีสินค้าทุกประเภทและทุกระดับราคาให้เลือกซื้อกันตามรสนิยมและงบประมาณ โดยเฉพาะสินค้าโอทอป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานศิลปหัตถกรรมฝีมือชาวบ้าน ราคาย่อมเยา และผลิตผลทางการเกษตร สด สะอาด จากไร่สวนนั้น นับเป็นของฝากประจำถิ่นที่น่าซื้อหากลับมาเป็นอย่างยิ่ง ไม่ใช่แค่มีสินค้าหลากหลาย แต่เมืองไทยยังมีแหล่งช้อปปิ้งมากมาย โดยกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาค มีตั้งแต่ตลาดนัด ตลาดน้ำ ตลาดเก่า ที่บรรยากาศการซื้อขายเต็มไปด้วยความสนุกสนานของการต่อรอง ไปจนถึงห้างสรรพสินค้าหรูหราจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนม ซึ่งมีช่วงเวลาลดราคาประจำปี อันเป็นโอกาสทองของนักช็อป ด้วยความที่มีแหล่งช็อปปิ้งหลากหลายและมากมายเช่นนี้เอง การท่องเที่ยวในเมืองไทยจึงควบคู่ไปกับการช้อปปิ้งได้อย่างเหมาะเจาะลงตัว
ตลาด
[edit | edit source]- ตลาดนัดสวนจตุจักร ตั้งอยู่ที่ถนนพหลโยธิน มีสินค้ามากมายหลายประเภทจำหน่าย เช่น สินค้าพื้นเมือง เครื่องจักสานเครื่องประดับ เสื้อผ้า ไปจนถึงสัตว์เลี้ยงนอกจากนี้ยังจัดบริเวณเฉพาะสำหรับร้านค้าพันธุ์ไม้ดอกไม้ ประดับชนิดต่าง ๆ ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย เปิดทุกวันเสาร์ และวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น.
- เจเจ มาร์เก็ต เชียงใหม่ ตั้งอยู่บนถนนอัษฏาธร ห่างจากวงแหวนในตัวเมืองประมาณ 1 กิโลเมตร ศูนย์การค้าแบบ Open Air รูปแบบเดียวกับตลาดนัดจตุจักรหรือสยามสแควร์ในกรุงเทพฯ ด้วยพื้นที่กว่า 40 ไร่ ประกอบด้วยร้านค้ากว่า 500 ร้าน เป็นตลาดนัดที่มีความหลากหลายของสินค้า เปิดตั้งแต่เช้าจรดค่ำ โดยเฉพาะในเช้าตรู่วันพุธและวันเสาร์ตั้งแต่ก่อน 6 โมง จะมีตลาดนัดพืชผักผลไม้แอร์แกนิค มาจำหน่ายด้วยราคาผู้ผลิตโดยตรงและจะเริ่มวายประมาณ 8 โมงเช้า หลังจากนั้นตอนสายร้านค้าต่าง ๆ จะเริ่มเปิด มีทั้งร้านจากโครงการส่วนพระองค์และโครงการในพระราชดำริ ร้านสินค้าหัตถกรรม ร้านบูติกเสื้อผ้า-เครื่องประดับ ร้านอาหาร-ชา-กาแฟ ร้านขายของเก่า ของสะสม เฟอร์นิเจอร์ ภาพเขียน ฯลฯ รวมทั้งมีพื้นที่สำหรับแสดงและจำหน่ายงานศิลปะ ในยามค่ำคืนเจเจมาร์เก็ตจะเป็นแหล่งรวมความบันเทิงในรูปแบบผับแอนด์เรสเตอร์รอง JJ Market ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่เบอร์โทรศัพท์ 0-5323-1520-5
- เพลินวาน เป็นแหล่งท่องเที่ยวในหัวหินที่จำลองบรรยากาศร้านรวงต่าง ๆ หลากหลายในอดีตมาไว้ในที่แห่งเดียว บริเวณตกแต่งด้วยป้ายโฆษณาย้อนยุค โปสเตอร์หนังยุคมิตร เพชรา และหน้าหนังสือแฟชั่นที่ทำให้หวลนึกถึงความหลัง มีสถานีจัดรายการเพลงเก่าให้เพลิดเพลินตลอดวัน รวมทั้งสามารถถ่ายรูปแบบย้อนยุคกับฉากหลังภาพวาดสถานีรถไฟหัวหินไว้เป็นที่ระลึก ในวันสุดสัปดาห์มีการจำลองบรรยากาศงานวัด ฉายหนังกลางแปลง ชิงช้าสวรรค์ และเกมการละเล่นต่าง ๆ ที่น่าสนุกสนาน รวมทั้งยังได้อิ่มอร่อยกับอาหารที่ร้านข้าวอุ่น แกงร้อน ตำรับหัวหิน ร้านขายปลาหวานปิ้ง ก๋วยเตี๋ยวหลอด ขนมครก ไอศกรีมแท่ง น้ำมะเน็ด กาแฟโบราณ ฯลฯ เปิดตลาดทุกวัน เวลา 10.00 - 22.00 น. วันศุกร์และเสาร์เปิดถึงเที่ยงคืน ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่เบอร์โทรศัพท์ 0-2712-8891, 0-3252-0311-2
ตลาดน้ำ
[edit | edit source]- ตลาดน้ำอัมพวา เป็นตลาดน้ำ ตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรสงคราม ตลาดน้ำอัมพวานับว่าเป็นจุดที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์อีกแห่งหนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศให้ความสนใจ การที่ยวตลาดน้ำอัมพวานั้น สามารถทำได้ทั้งยามเช้าและเย็น ซึ่งจะให้บรรยาการที่แตกต่างกัน นักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศนิยมที่จะมาพักค้างคืนแบบโฮมสเตย์ เปิดทำการวัน วันเสาร์ และ วันอาทิตย์
- ตลาดน้ำอโยธยา เป็นตลาดน้ำใหม่ บนเนื้อที่ 60 ไร่ ถือเป็นตลาดน้ำที่ยิงใหญ่ที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในตลาดบรรยากาศย้อนยุคแบบโบราณ แวดล้อมไป ด้วยธรรมชาติ แบบไทยพื้นบ้านและสายน้ำ จัดแบ่งเป็นโซนๆ ตลาดน้ำอโยธยามีร้านค้ามากถึง 249 ร้าน ประกอบ ด้วยเรือสินค้า ขายอาหาร 50 ลำ ตลาดนัดชุมชนวิถีไทกว่าอีก 40 ร้าน และร้านค้าต่างๆ อีก 159 ร้าน มีสะพานเดิน ริมแม่น้ำเพื่อ เลือกซื้อสินค้าจากกลุ่มชาวบ้านต่างอำเภอ หรือสินค้า OTOP มากมายหลากหลายชนิด เปิดทุกวัน ตั้ง แต่วันจันทร์ - อาทิตย์ เวลา 10.00น. - 21.00น. ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่เบอร์โทรศัพท์ 0-3588-1733
ศูนย์การค้า
[edit | edit source]- เซ็นทรัลเวิลด์ เป็นศูนย์การค้าครบวงจรที่มีพื้นที่รวมใหญ่ที่สุดและเป็นคอมเพล็กซ์แห่งแรกในประเทศไทย มีทั้งสินค้า เสื้อผ้า กระเป๋า หนังสือ อุปกรณ์ต่างๆ และร้านอาหาร นอกจากนี้ยังมีลานแสดงกิจกรรมต่างๆ และโรงแรม ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่เบอร์โทรศัพท์ 662-264-5555 หรือทางเว็บไซต์ http://www.centralworld.co.th
ห้างสรรพสินค้า
[edit | edit source]- เทสโก้ โลตัส เป็นห้างสรรพสินค้าที่กระจายในประเทศไทยขนาดใหญ่ มีการจำหน่ายสินค้าหลากหลายประเภท และยังมีพลาซ่าและความบันเทิงต่างๆ หลากหลาย เช่น โรงภาพยนตร์ และพื้นที่พิเศษ เช่น โฮมโปร ในเมืองใหญ่ในประเทศไทย
- บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เป็นห้างสรรพสินค้าที่กระจายในประเทศไทย สินค้าอุปโภคบริโภค ในรูปแบบร้านไฮเปอร์มาร์ทขนาดใหญ่
- สยามแม็คโคร เป็นห้างสรรพสินค้าที่กระจายในประเทศไทย จำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคแบบราคาขายส่ง
- โรบินสัน เป็นห้างสรรพสินค้าที่กระจายในประเทศไทย จำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภค โดยเน้นสินค้าแฟชั่นทันสมัย
ร้านสะดวกซื้อ
[edit | edit source]- เซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทย มีจำนวนสาขาประมาณ 6,300 สาขา ในประเทศไทย โดยคุณสามรถพบเห็น และจับจ่ายซื้อของในร้านสะดวกซื้อนี้ได้
ที่พัก
[edit | edit source]ประเทศไทยมีโรงแรมระดับต่างๆ และที่พักหลากหลายรูปแบบอยู่ทั่วประเทศ ตั้งแต่โรงแรมหรูระดับห้าดาว รีสอร์ตสไตล์ต่างๆ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ อพาร์ตเมนต์ หอพัก คอนโดมิเนียมให้เช่าทั้งแบบรายวัน รายเดือน และรายปี ไปจนถึงเกสต์เฮาส์ขนาดเล็ก รวมทั้งมีที่พักแบบโฮมสเตย์ และมีอุทยานแห่งชาติหลายแห่งที่มีบริการบ้านพัก จุดกางเต็นท์ และเต็นท์ให้เช่า สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบและต้องการใกล้ชิดธรรมชาติ รวมทั้งผู้ที่นิยมการพักผ่อนในบรรยากาศแบบแค็มปิ้งด้วย
ไปต่อ
[edit | edit source]ไปท่องเที่ยวต่อ
อ้างอิ
[edit | edit source]- ฝ่ายกรรมวิธีข้อมูล. สถิติภูมิอากาศของประเทศไทยในคาบ 30 ปี (พ.ศ. 2504-2533). รายงานข้อมูลอุตุนิยมวิทยาเลขที่ 551.582-02-2537, ISBN : 974-7554-80-1, กองภูมิอากาศ, กรมอุตุนิยมวิทยา, กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
- วิรัช มณีสาร, เรือโท. สถิติองค์ประกอบอุตุนิยมวิทยาของภาคต่างๆ ในประเทศไทย คาบ 30 ปี (พ.ศ. 2504-2533) เอกสารวิชาการเลขที่ 551.582-03-2538, ISBN : 974-7567-24-5, กันยายน 2538
- การแบ่งภูมิภาคทางภูมิศาสตร์ จาก ราชบัณฑิตยสถาน
- ข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับประเทศไทย ในเว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
- การเดินทาง ในเว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
- การเดินทางโดยรถไฟ ในเว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
- ชนิดา ศักดิ์ศิริสัมพันธ์. หน้า 103.
- Tourism Authority of Thailand. หน้า 22.
- สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรม ในเว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
- วัลลภา รุ่งศิริแสงรัตน์. หน้า 2.
- ศูนย์ข้อมูลสำหรับนักท่องเที่ยว ในเว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
- การเดินทางมาประเทศไทย ในเว็บไซต์ Aseannewsnetwork
- รายชื่อประเทศที่สามารถขอรับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยวได้ ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง ในเว็บไซต์สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
- สถานที่ท่องเที่ยว ในเว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
- ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก ในเว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
Commons:Category:Thailand WikiPedia:Thailand